เมื่อวันอังคาร นายโธมัส เวสต์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ สำหรับอัฟกานิสถาน กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า สหรัฐฯ “กังวลอย่างยิ่งถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถานที่เลวร้ายลง” และอัฟกานิสถานเผชิญกับวิกฤตดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนกลุ่มตาลิบันยึดอำนาจเมื่อเดือนสิงหาคมแล้ว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายอาเมอร์ ข่าน มุตตาคิ รัฐมนตรีต่างประเทศของตาลิบัน เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐสภาสหรัฐฯ โดยเตือนว่า อาจเกิดคลื่นผู้อพยพระลอกใหญ่จากอัฟกานิสถาน หากสหรัฐฯ ยังคงระงับการทำธุรกรรมของสินทรัพย์อัฟกันในธนาคารกลาง มูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ และยังคงใช้มาตรการลงโทษทางการเงินแก่อัฟกานิสถาน
นายเวสต์กล่าวกับวีโอเอว่า อัฟกานิสถานเผชิญกับวิกฤตมนุษยธรรมมาตั้งแต่ก่อนเดือนสิงหาคมแล้ว แต่สหรัฐฯ เห็นว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเนื่องจากการช่วยเหลือจากต่างชาติที่หายไป ซึ่งเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานพึ่งพาการช่วยเหลือดังกล่าวเป็นอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
เขากล่าวว่า สหรัฐฯ ชัดเจนว่าหากกลุ่มตาลิบันใช้อำนาจทางทหารเพื่อยึดครองอำนาจ การช่วยเหลือจากต่างชาติจะหายไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
นายเวสต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านกิจการเอเชียใต้และเอเชียกลาง กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมกลุ่ม “ทรอยกาพลัส” เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมที่กรุงอิสลามาบัด โดยมีปากีสถานเป็นเจ้าภาพ และจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน เป็นเวลาเดียวกับที่คณะของกลุ่มตาลิบันที่นำโดยนายมุตตาคิ เดินทางถึงเมืองดังกล่าว
แถลงการณ์ร่วมของปากีสถาน จีน รัสเซีย และสหรัฐฯ ระบุว่า ทางกลุ่มตกลงเดินหน้าติดต่อกับกลุ่มตาลิบันเพื่อกระตุ้นให้มีการใช้นโยบาย “ทางสายกลางและรอบคอบ” เพื่อให้อัฟกานิสถานมีความมั่นคงและมั่งคั่งโดยเร็วที่สุด
ต่อคำถามที่ว่า หากประเทศอื่นในกลุ่มทรอยกาพลัสให้การรับรองกลุ่มตาลิบัน สหรัฐฯ จะดำเนินการดังกล่าวเช่นกันหรือไม่ นายเวสต์ระบุว่า เนื่องจากคำถามดังกล่าวเป็นสถานการณ์สมมติ คำตอบของเขาคือ สหรัฐฯ จะไม่ให้การรับรองตาลิบัน และเขายังไม่เห็นความเป็นไปได้ว่ารัสเซียและจีนจะรับรองกลุ่มดังกล่าว ในขณะที่ปากีสถานร่วมมือกับกลุ่มตาลิบันในระดับมากกว่าสหรัฐฯ ในขณะนี้