Your browser doesn’t support HTML5
บริษัทสาธารณูปโภคชั้นนำของสหรัฐฯ หลายแห่งร่วมมือกันจัดตั้งกลุ่มงานใหม่เพื่อทำหน้าที่ล็อบบี้ให้รัฐบาลออกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
กลุ่มล็อบบี้แห่งใหม่ที่ชื่อ Zero Emission Transportation Association นี้ถูกจัดตั้งด้วยการสนับสนุนของบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ เทสลา ของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ และ อูเบอร์ ร่วมกับบริษัทอีกหลายแห่ง โดยมีเป้าหมายการทำงานที่จะกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้หันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และยกเลิกการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน รวมทั้งเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้มีการจัดตั้งมาตรฐานการประเมินสมรรถภาพรถและการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่จะช่วยให้การเปลี่ยนถ่ายจากการใช้พลังงานแบบดั้งเดิมของรถยนต์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบเกิดขึ้นภายในปี ค.ศ. 2030
ที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธข้อเสนอใหม่การดำเนินมาตรการส่งเสริมทางภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่มีแผนดำเนินมาตรการส่งเสริมการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบปกติมากกว่า ขณะที่ ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สัญญาจะออกนโยบายด้านภาษีใหม่เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เช่น การส่งคืนส่วนลดให้ผู้ซื้อรถไฟฟ้า และการเปิดสถานีชารจ์ไฟเพิ่มขึ้นอีกกว่าครึ่งล้านแห่ง เป็นต้น
ในปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐฯ อยู่ที่ 326,000 คัน หรือราว 2 เปอร์เซ็นต์ของยอดจำหน่ายรถทั่วประเทศ โดยเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของยอดนี้เป็นรถของเทสลา
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ว่าการ แกวิน นิวซัม แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นตลาดรถที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ด้วยสัดส่วนการตลาดที่ราว 11 เปอร์เซ็นต์ เผยแผนสั่งห้ามการจำหน่ายรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันตั้งแต่ปี ค.ศ. 2035 เป็นต้นไป เพื่อส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก