หุ้นดาวโจนส์ดีดตัวสูงสุดเป็นสถิติใหม่กว่า 1,000 จุดในวันพุธ

A screen displays the Dow Jones Industrial Average after the close of trading on the floor of the New York Stock Exchange (NYSE) in New York City, Dec. 26, 2018.

ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ดีดตัวสูงขึ้นในการซื้อขายวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 จุด ถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ชดเชยส่วนที่ร่วงลงไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

หุ้นของบริษัทเทคโนโลยี อิเทอร์เน็ต ร้านค้าปลีก และบริษัทด้านสุขภาพ พุ่งสูงขึ้นในวันพุธ เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นในระดับที่เป็นสถิติใหม่ในรอบสองปีของการเพิ่มขึ้นภายในหนึ่งวััน

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การที่ดัชนีต่างๆ ดีดตัวสูงขึ้นมากในวันนี้ คือปฏิกิริยาตอบสนองต่อแรงเทขายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งคำถามสำคัญคือตลาดหุ้นจะสามารถรักษาโมเมนตัมนี้ต่อไปได้จนถึงสิ้นปีหรือไม่

โดยวันนี้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 5% หรือ 1,086 จุด ปิดที่ 22,878 จุด, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5% ปิดที่ 2,467จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.8% หรือr 361 จุด ปิดที่ 6,554 จุด

ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาตำหนิการทำงานของนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed

อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต่างออกมารับรองว่า ตำแหน่งของนายพาวเวลล์ ยังคงปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เองได้เปลี่ยนท่าทีเมื่อวานนี้ โดยบอกว่ามาตรการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั้น มีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตลาด

FILE - Federal Reserve Chairman Jerome Powell addresses the Federal Reserve Board's 15th annual College Fed Challenge Finals in Washington, Nov. 29, 2018.

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เชื่อว่า การปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ บางสว่น ที่ดำเนินมาถึงวันที่ 5 แล้วนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากนัก