งานศิลปะดิจิทัล เป้าหมายใหม่ของนักสะสมศิลปะ

NFT Blockchain Digital Arts

เมื่อพูดถึงภาพวาดของศิลปินชื่อดังอย่าง วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) ที่ขายได้ในราคาหลายล้านดอลลาร์เรื่องนี้อาจเป็นข่าวใหญ่โต แต่จะมีใครคิดว่างานดิจิทัลที่สร้างสรรค์โดยศิลปินในยุคปัจจุบันจะสามารถขายได้ในราคาเกือบ 70 ล้านดอลลาร์

เมื่อปีที่แล้วนักสะสมงานศิลปะจากฟลอริดาได้ซื้อวิดีโอที่มีความยาว 10 วินาทีของศิลปินที่ใช้ชื่อว่า บีเพิล (Beeple) ในราคาประมาณ 67,000 ดอลลาร์ และเมื่อไม่นามานี้ นักสะสมผู้นี้ขายวิดีโอนั้นได้ในราคา 6.6 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ วิดีโออาร์ตเวิร์คที่เป็นจุดเริ่มของกระแสงานศิลปะดิจิทัล แสดงภาพอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อยู่บนพื้นโดยร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยคำขวัญซึ่งเป็นวลีที่กลุ่มต่างๆ ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจ ผลงานที่ชื่อ “ทุกๆ วัน: 5,000 วันแรก” หรือ “Everydays: The First 5,000 Days” ที่สร้างจากรูปดิจิทัล 5,000 รูป ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาวันละรูป ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 โดย “บีเพิล” หรือไมค์ วิงเคิลแมน เพิ่งกลายมาเป็นงานศิลป์ยุคใหม่ที่ทำเงินเป็นสถิติสูงสุดของ คริสตีส์ (Christie’s) บริษัทประมูลงานศิลปะชื่อดัง ที่ 69.4 ล้านดอลลาร์

ปรากฏการณ์นี้ ทำให้ คริสตีส์ ขนานนาม บีเพิล ว่าเป็น “หนึ่งในสามศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่มีผลงานศิลปะมูลค่าสูงที่สุด”

ทั้งนี้ ตลาดสำหรับงานดิจิทัลนั้นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ไฟล์ดิจิทัลมีความแตกต่างไม่เหมือนใคร ดังนั้นการซื้องานศิลปะดังกล่าวจึงกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า blockchain ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือน “ลายเซ็นดิจิทัล” เพื่อช่วยพิสูจน์ว่างานศิลปะดังกล่าวเป็นงานศิลปะเสมือนจริงเท่านั้น และเป็นชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย

ความแปลกใหม่อีกข้อในการซื้อขายงานศิลปะยุคปัจจุบัน คือ การที่ คริสตีส์ ยอมรับการชำระด้วยทั้งเงินแบบดั้งเดิมและสกุลเงินดิจิทัล

โนอาห์ เดวิส (Noah Davis) ซึ่งทำงานให้กับ คริสตีส์ กล่าวว่าไม่ใช่แค่งานศิลปะเท่านั้นที่ขายได้ด้วยวิธีนี้

หลายปีที่ผ่านมาผู้คนซื้อขาย Sports Cards หรือการ์ดกีฬาซึ่งเป็นกระดาษแผ่นหนาที่มีรูปนักกีฬาชื่อดัง และในที่สุดการ์ดกีฬาบางใบก็มีมูลค่าสูงจนสามารถขายได้หลายพันดอลลาร์

ปัจจุบันการ์ดกีฬาเหล่านั้นยังคงได้รับความนิยม แต่กีฬาบางชนิดก็กำลังก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยเช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่นสมาคมบาสเก็ตบอลแห่งชาติของสหรัฐฯ มีตลาดแห่งใหม่สำหรับการซื้อขายวิดีโอสั้นๆ ที่เรียกว่า Top Shot ซึ่งเป็นวิดีโอสั้นๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่สำคัญๆ จากการแข่งขัน อย่างเช่นการที่ เลบรอน เจมส์ (LeBron James) จาก Los Angeles Lakers จับลูกบาสยัดเข้าห่วงหรือ dunk ที่ขายได้หลายพันดอลลาร์ การขายที่มีราคาสูงที่สุดในเว็บไซต์เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เมื่อมีผู้ซื้อภาพ dunk โดย เจมส์ ในราคา 208,000 ดอลลาร์

ผู้ซื้อ Top Shot รายหนึ่งบอกกับสำนักข่าว รอยเตอร์ส ว่าเขาซื้อสินค้านี้ในตลาดด้วยราคาประมาณ 1 ล้านดอลลาร์และสามารถขายใหม่ได้ในราคาเกือบ 5 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการซื้อและขายสินค้าดิจิทัลกล่าวว่าผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับแนวคิดในการเป็นเจ้าของสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจับต้องได้กันมากขึ้น

แอนดรูว์ สไตน์โวลด์ (Andrew Steinwold) เป็นผู้บริหารกองทุนการลงทุนที่ซื้อและขายไฟล์ดิจิทัลเหล่านี้ กองทุนดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมด้วยมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะได้กล่าวเตือนบรรดานักลงทุนให้ระมัดระวังเรื่องเงินของพวกเขา แต่เขาก็ยังคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ตลาดสำหรับไฟล์ดิจิทัลนั้นจะเพิ่มมูลค่าขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเขาคิดว่าในวันหนึ่งตลาดนี้อาจมีมูลค่าสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว