หนังภาคต่อ Den of Thieves เปิดตัวอันดับหนึ่ง ในสัปดาห์อันเงียบเหงาของฮอลลีวู้ด

ภาพจากค่ายหนัง Lionsgate แสดงให้เห็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ "Den of Thieves 2: Pantera" ที่นำแสดงโดย เจอราด บัตเลอร์ และ โอเชีย แจ็คสัน จูเนียร์ (Rico Torres/Lionsgate via AP)

ในสัปดาห์ที่บรรยากาศในสหรัฐฯ ค่อนข้างเงียบเหงาเพราะผลกระทบจากภัยธรรมชาติโดยเฉพาะสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในลอสแอนเจลิส ผลงานภาคต่อของภาพยนตร์ปล้นเดือดไล่ล่า Den of Thieves สามารถเปิดตัวฉายในอันดับหนึ่งสำเร็จ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

Den of Thieves: Pantera หรือ “โคตรนรกปล้นเหนือเมฆ แพนเธอรา” ซึ่งเป็นหนังภาคต่อของแก็งโจรและมาเฟียเมื่อปี 2018 ที่นำแสดงโดย เจอราด บัตเลอร์ เช่นเดิม คว้าอันดับหนึ่งในตารางบ็อกซ์ออฟฟิศไปพร้อมรายได้ 15.5 ล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์กลางเดือนมกราคมที่มักจะเป็นช่วงที่ธุรกิจฉายภาพยนตร์ค่อนข้างจะเงียบอยู่แล้ว แต่แย่กว่าปกติเพราะไฟป่ารุนแรงในแอลเอซึ่งเป็นตลาดฉายหนังชั้นนำของสหรัฐฯ ทำให้ต้องมีการปิดโรงภาพยนตร์ไปแล้วราว 10 แห่ง

ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ Den of Thieves 2: Pantera

อย่างไรก็ดี ถือว่า Den of Thieves: Pantera ทำผลงานในสัปดาห์แรกได้ดีไม่ต่างจากในภาคแรกเมื่อ 7 ปีก่อน แม้ว่าในภาคต่อนี้จะมีทุนสร้างสูงกว่าเดิมพอควรที่ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ผู้ชมยังสนุกไปกับหนังแนวตื่นเต้นเร้าใจนี้และให้คะแนน B+ ไป ตามรายงานของ CinemaScore แม้การรีวิวของ Rotten Tomatoes จะออกมาไม่ค่อยดีนักก็ตาม

ภาพขอฉากหนึ่งจากภาพยนตร์ "Mufasa: The Lion King"

อันดับ 2-5 ในสัปดาห์นี้ก็ยังคงเป็นชุดเดิมที่ถูกเบียดตกลงมาคนละหนึ่งอันดับจากสัปดาห์ที่แล้ว นำโดย Mufasa: The Lion King ที่ฉายมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วและเก็บเงินเพิ่มไปได้อีก 13.2 ล้านดอลลาร์

ภาพโปสเตอร์ในการฉายรอบปฐมทัศน์ของ "Sonic The Hedgehog 3" ที่ TCL Chinese Theatre ในฮอลลีวู้ด แคลิฟอร์เนียน เมื่อ 16 ธ.ค. 2567 (Photo by Michael Tran / AFP)

ส่วน Sonic the Hedgehog ภาค 3 ตามมาที่อันดับที่ 3 พร้อมรายได้เข้ากระเป๋าอีก 11 ล้านดอลลาร์

ภาพจากฉากหนึ่งของภาพยนตร์ Nosferatu

อันดับที่ 4 ของสัปดาห์นี้คือ หนังฮิตผิดคาดในช่วงคริสต์มาสแนวสยองขวัญแวมไพร์ “Nosferatu” ที่ทำเงินได้น้อยลงเกือบครึ่งหนึ่งของสัปดาห์ที่แล้ว โดยเก็บรายได้เพิ่มไปอีก 6.8 ล้านดอลลาร์

ภาพนิ่งจากค่ายดิสนีย์ ที่เป็นฉากหนึ่งจาก Moana 2

ตามติดมาด้วย Moana 2 หนังแอนิเมชันภาคต่อของเจ้าหญิงแห่งดิสนีย์ที่ออกผจญภัยในมหาสมุทรอีกครั้งที่ชวนผู้ชมเข้าโรงภาพยนตร์ต่อได้และเก็บเงินเพิ่มอีก 6.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ รายได้รวมจากการฉายทั่วโลกพุ่งขึ้นมาที่ 989.8 ล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งส่งสัญญาณว่า ในอีกไม่กี่วัน ผลงานชิ้นที่ 3 ของปี 2024 จากค่ายดิสนีย์จะทำรายได้ทะลุระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับ “Inside Out 2” และ “Deadpool and Wolverine”

1. “Den of Thieves 2: Pantera,” $15.5 million.

2. “Mufasa: The Lion King,” $13.2 million.

3. “Sonic the Hedgehog 3,” $11 million.

4. “Nosferatu,” $6.8 million.

5. “Moana 2,” $6.5 million.

6. “A Complete Unknown,” $5 million.

7. “Wicked,” $5 million.

8. “Babygirl,” $3.1 million.

9. “Game Changer,” $1.9 million.

10. “The Last Showgirl,” $1.5 million.

  • ที่มา: วีโอเอ