ศึกชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมเเครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีหน้า คึกคักขึ้นอีกระดับเมื่อนักการเมืองของพรรคเริ่มการอภิปรายบนเวทีปราศรัยสัปดาห์นี้
ในการโต้อภิปรายที่มีขึ้น มีผู้ลงเเข่งทั้งหมด 20 คน โดยการถ่ายทอดสดดีเบตเเบ่งเป็นสองวัน คือคืนวันพุธและพฤหัสบดี ในแต่ละวันมีผู้ขึ้นเวที 10 คน ออกอากาศผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ สามเเห่ง NBC MSNBC และ Telemundo
ในบรรดาตัวแทนเดโมเเครต เต็งหนึ่งขณะนี้ตามผลโพลล์ คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯโจ ไบเดน เขาใช้เวทีนี้โจมตีประธานาธิบดีทรัมป์
ในตอนหนึ่ง โจ ไบเดนกล่าวว่าทรัมป์ทำลายค่านิยมอเมริกัน ด้วยการยอมรับผู้ที่มีความคิดสุดโต่งคลั่งชนผิวขาว ว่าเป็นคนดี
นักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง พีท บุดดาเจ็จ นายกเทศมนตรี เมืองเซาธ์ เบนด์รัฐอินเดียนา วิจารณ์ประธานาธิบดี ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันอย่างดุเดือดเช่นกัน
เขากล่าวว่า เขาเห็นความปากอย่างใจอย่างของพรรครีพับลิกัน ว่าศรัทธาในศาสนา แต่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐพรากครอบครัวผู้อพยพ และจับเด็กใส่กรงขัง ในการปราบปรามผู้เข้าสหรัฐฯผิดกฎหมาย
ผู้ลงเเข่งขันที่เน้นการพูดถึงนโยบายมีหลายคน โดยเฉพาะ วุฒิสมาชิก อะลิซาเบธ วอร์เรน และ ส.ว.เบอร์นี เเซนเดอร์ส
ในการโต้อภิปรายสองคืน ที่ยาวนานรวมสี่ชั่วโมง มีบางช่วงที่เดโมเเครตโจมตีกันเอง อย่างเช่นตอนที่ ส.ว. คามาลา เเฮร์ริส ตำหนิว่าอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยกล่าวถึงชื่อเสียงของนักการเมืองที่สนับสนุนนโยบายที่เป็นสัญลักษณ์ของการกีดกันคนผิวสี ซึ่งโจ ไบเดน ตอบโต้อย่างทันทีเช่นกัน ว่าเขาลงมาเล่นการเมืองก็เพื่อการป้องป้องสิทธิชนกลุ่มน้อย
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของการดีเบตครั้งนี้ คือช่วงวัยที่ของผู้ชิงตำแหน่งที่ต่างกันมากระหว่างบางคนที่อายุกว่า 70 ปี อย่างไบเดน และอิริค สวอลเวล ส.ส.จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่อายุไม่ถึง 40 ปี
นายสวอลเวล พูดอย่างมีอารมณ์ขันเชิงเสียดสี ว่าไบเดนเคยพูดเมื่อ 32 ปีก่อนว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องฝากอนาคตไว้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งนายสวอลเวล กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องในตอนนั้นและตอนนี้เช่นกัน