นักวิจัยเชื่อว่าการปั๊มน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวได้

เมื่อวันที่ 11 พ.ค ปีที่แล้ว เกิดเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 5.1 ริคเตอร์บริเวณเมือง Lorca ทางใต้ของสเปน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บอีกราว 300 คน นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี มีมูลค่าความเสียหายหลายล้านยูโร

ไม่นานนี้นักวิทยาศาสตร์จากแคนาดา อิตาลีและสเปน ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม พบว่าแนวการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนั้นอยู่ใกล้กับแหล่งที่มีการขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ปริมาณมหาศาลในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นการนำน้ำขึ้นมาใช้ในทางเกษตรกรรมเนื่องจากเมือง Lorca ถือเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ของยุโรป ส่งผลให้ระดับน้ำบาดาลลดลงประมาณ 250 เมตร

นักวิจัยนานาชาตินำโดยศาสตราจารย์ Pablo J. Gonzalez จาก University of Western Ontario ในแคนาดา เชื่อว่าการปั๊มน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากเกินไปจากชั้นหินอุ้มน้ำจนทำให้ชั้นหินในบริเวณนั้นแห้งเหือด อาจเป็นชนวนให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ที่เมือง Lorca เท่านั้น แต่พื้นที่อื่นๆก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นับเป็นรายงานชิ้นแรกที่ตั้งสมมติฐานในประเด็นนี้

คุณ Miguel de las Doblas Lavigne นักธรณีวิทยาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติของสเปน ระบุว่าบริเวณแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีการปั๊มน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในการเกษตรอย่างกว้างขวาง ทำให้ระดับน้ำบาดาลในแถบนี้ลดต่ำลงมาก นักธรณีวิทยาผู้นี้ชี้ว่าในสเปน ชาวบ้านต่างพากันขุดบ่อบาดาลของตนเองโดยไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร โดยเฉพาะในเมือง Lorca นั้นอาจพบบ่อบาดาลผิดกฎหมายถึง 80%

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ศาสตราจารย์ Jose Martinez Diez แห่งภาควิชาธรณีพลศาสตร์ มหาวิทยาลัย Complutense ในกรุงมาดริด ระบุว่าในอดีตคือระหว่างศตวรรษที่ 17-19 ก็เคยเกิดแผ่นดินไหวในลักษณะคล้ายๆกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานว่ามีขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากเกินไปแต่อย่างใด
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งแรกที่เชื่อว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เชื่อว่าเกิดจากการกระทำของมนุษย์นั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่งซึ่งเป็นการกักเก็บน้ำปริมาณมหาศาล ทำให้เกิดแรงกดดันต่อชั้นหินโดยรวมจนมีการเคลื่อนตัวของชั้นหิน ซึ่งรวมทั้งแผ่นดินไหวที่เมือง Koynanagar ในอินเดียเมื่อ ปี ค.ศ 1967 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน

นอกจากนี้นักวิจัยผู้ร่วมจัดทำรายงานชิ้นนี้ยังเชื่อว่าในทางทฤษฎีนั้น การอัดฉีดของเหลวลงไปใต้ดินก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆได้ ซึ่งอาจรวมถึงแนวคิดเรื่องการอัดฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปกักเก็บไว้ใต้ดินเพื่อลดผลกระทบจากการเกิดภาวะโลกร้อน ก็อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมได้เช่นกัน