โครงการอนุรักษ์เส้นทางรถไฟในอเมริกาปรับปรุงเส้นทางรถไฟร้างในรัฐมิสซูรี่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการที่เรียกว่า Katy Trail และกลายเป็นที่นิยมของนักเดินเท้า นักปั่นจักรยานและนักธุรกิจท้องถิ่นที่ชี้ว่าการท่องเที่ยวบนทางรถไฟร้างสายนี้สร้างรายได้ที่ดีให้แก่ท้องถิ่น
เเสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเเสงสีเหลืองทองบนเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านเมือง Sedalia ในรัฐมิสซูรี่ รถยนต์คันหนึ่งแล่นตัดผ่านเส้นทางรถไฟก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนถนนและหายลับไป
ไม่มีวี่แววว่าจะมีรถไฟวิ่งบนเส้นทางรถไฟสายนี้ จนกระทั่งมีเสียงเปิดด่านทางข้ามที่ปล่อยให้หัวรถจักรคันหนึ่งเเล่นมาบนทางรถไฟ โดยทั่งขบวนมีเเค่หัวรถจักรกับโบกี้รถไฟเพียงตู้เดียวเท่านั้น
ห่างออกไปราวสิบบล็อคถนน มีนักท่องเที่ยวราว 30 กว่าคนเเต่งตัวด้วยชุดนักปั่นจักรยานกำลังเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งหนึ่งที่ลักษณะคล้ายกับพระราชวัง ที่มีหลังคาสูงชันปูด้วยกระเบื้องสีเขียว คุณเเคทลีน บอสเวล ทัวร์ไกด์กล่าวว่าอาคารที่ชานชะลาโบราณแห่งนี้มีอายุย้อนไปถึงช่วงปีคริสต์ศักราช 1860s สมัยที่รถไฟมีความสำคัญมากที่สุดในสหรัฐ
คุณบอสเวลกล่าวว่าเคยมีเส้นทางรถไฟนับโหลขนาบทั้งสองข้างของตัวอาคารชานชะลา แต่มาตอนนี้มีเเค่เส้นทางรถไฟส่วนน้อยนิดนี้หลงเหลืออยู่เท่านั้น
เคยมีรถไฟหลายร้อยขบวนต่อสัปดาห์หยุดจอดที่ชานชะลาเเห่งนี้ เเต่ราวสี่สิบกว่าปีที่แล้ว การขนส่งสินค้าและผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปเป็นการขนส่งด้วยรถบรรทุกและการเดินทางทางเครื่องบินแทน ทำให้เส้นทางรถไฟจำนวนมากในรัฐมิสซูรี่ถูกเลิกใช้งาน พอมาถึงช่วงสามสิบกว่าปีที่แล้ว บรรดาผู้บริจาคเงินภาคเอกชนได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการเพื่อทำการปรับเส้นทางรถไฟในส่วนนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อดีตเส้นทางรถไฟ Katy ได้ถูกปรับให้เป็นทางเดินหินลูกรังที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเป็นหนึ่งในบรรดาเส้นทางเดินเพื่อสันทนาการแรกๆที่ยาวที่สุดในโครงการอนุรักษ์ National Rails to Trails Conservancy.
นักท่องเที่ยวบางคนได้กระโดดขึ้นบนจักรยานเพื่อทดสอบพลังการปั่นของตนบนทางหินลูกรัง พวกเขากำลังเตรียมพร้อมเข้าร่วมสัปดาห์ของการปั่นจักรยานระยะทางห้าสิบและแปดสิบกิโลเมตรต่อวัน ทัวร์ไกด์คนเดิมชี้ให้บรรดานักปั่นจักรยานดูเส้นทางตามทางรถไฟที่จะพาพวกเขาไปเมืองเซ็นท์หลุยส์
ไม่นานหลังจากนั้น บรรดานักปั่นจักรยานได้เริ่มปั่นจักรยานไปตามทางรถไฟร้างที่ปลอดจากยานยนต์ เส้นทางนี้ตัดผ่านป่าไม้เนื้อเเข็งและลอดอุโมงค์รถไฟหลายจุด ผ่านทุ่งข้าวโพดและลัดเลาะฝั่งเเม่น้ำมิสซูรี่ที่กว้างใหญ่ นักปั่นจักรยานกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนเกือบครึ่งล้านคนที่ใช้เส้นทางรถไฟ Katy สายเก่านี้ต่อปี มีนักท่องเที่ยวมากกว่าสองหมื่นคนเดินทางมาจากนอกรัฐ
คุณสเตซี่ ไฮค์เกส เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวจากนอกรัฐ เธอมาจากรัฐโคโลราโด้เเละจะปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามทางเส้นรถไฟสายเก่าเส้นนี้ท่ามกลางเสียงร้องเพลงของแมลงและใต้ร่มเงาของต้นไม้ในป่า
เธอบอกว่ารักการปั่นจักรยานมาก ทำให้เธอต้องเดินทางมาที่นี่ เธอชอบปั่นจักรยานในสถานที่ใหม่ๆเพื่อได้เห็นสิ่งใหม่ๆ แปลกหูแปลกตาไปจากเส้นทางปั่นจักรยานเดิมๆ เธอบอกว่าได้ยินมาว่าระหว่างทาง มีต้นโอ๊คใหญ่มาก น่าจะใหญ่ที่สุดในรัฐก็ว่าได้
บริษัทเอเย่นทัวร์ชื่อ Road Scholars เป็นผู้บริการจัดแผนการเดินทางของกลุ่มนักปั่นจักรยานกลุ่มนี้ โดยส่งเสริมให้มีการเเวะชมสถานที่ต่างๆระหว่างทาง อาทิ พิพิทธภัณฑ์หลายๆแห่ง ไร่องุ่นตามจุดต่างๆรวมทั้งเมืองหลวงของรัฐมิสซูรี่ด้วย
ค่าก่อสร้่างเส้นทางท่องเที่ยว Katy Trail นี้อยู่ที่หกล้านดอลล่าร์สหรัฐ แต่ทางการรัฐมิสซูรี่เสียค่าใช้จ่ายเพียงส่วนเล็กน้อยต่อปีในการดูแลรักษาเส้นทางที่ยาวถึง 390 กิโลเมตรนี้ คุณท็อด ไวท์ เจ้าของร้านเจักรยานเช่า Katy Bike Rental กล่าวว่าการลงทุนนี้คุ้มเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาใช้บริการ
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าผลการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจชี้ว่านักท่องเที่ยวนำเงินมาใช้จ่ายในพื้นที่ถึงสิบแปดล้านห้าแสนดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ทั้งเป็นค่าอาหาร ค่าเช่าจักรยานและค่าบริการในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
คุณไวท์กล่าวว่าหลายเมืองในรัฐมิสซูรี่ได้หันมาบังคับให้ถนนเส้นหลักหลายสายและสะพานต่างๆตลอดจนชุมชนที่อยู่อาศัยต่างๆให้สร้างเลนปั่นจักรยานควบคู่ไปด้วยเพื่อโยงเข้ากับเส้นทางรถไฟโบราณเพื่อการท่องเที่ยว Katy Trail เเห่งนี้ด้วย
ตั้งแต่โครงการอนุรักษ์เส้นทางรถไฟสาย Katy Trail เริ่มต้นขึ้น โครงการนี้ได้ช่วยปรับปรุงทางรถไฟร้างให้กลายเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเเล้วถึง 32,000 กิโลเมตร ทางโครงการตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างเครือข่ายระดับชาติที่โยงเส้นทางเพื่อสันทนาการต่างๆเข้าด้วยกัน
เเสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเเสงสีเหลืองทองบนเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านเมือง Sedalia ในรัฐมิสซูรี่ รถยนต์คันหนึ่งแล่นตัดผ่านเส้นทางรถไฟก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนถนนและหายลับไป
ไม่มีวี่แววว่าจะมีรถไฟวิ่งบนเส้นทางรถไฟสายนี้ จนกระทั่งมีเสียงเปิดด่านทางข้ามที่ปล่อยให้หัวรถจักรคันหนึ่งเเล่นมาบนทางรถไฟ โดยทั่งขบวนมีเเค่หัวรถจักรกับโบกี้รถไฟเพียงตู้เดียวเท่านั้น
ห่างออกไปราวสิบบล็อคถนน มีนักท่องเที่ยวราว 30 กว่าคนเเต่งตัวด้วยชุดนักปั่นจักรยานกำลังเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งหนึ่งที่ลักษณะคล้ายกับพระราชวัง ที่มีหลังคาสูงชันปูด้วยกระเบื้องสีเขียว คุณเเคทลีน บอสเวล ทัวร์ไกด์กล่าวว่าอาคารที่ชานชะลาโบราณแห่งนี้มีอายุย้อนไปถึงช่วงปีคริสต์ศักราช 1860s สมัยที่รถไฟมีความสำคัญมากที่สุดในสหรัฐ
คุณบอสเวลกล่าวว่าเคยมีเส้นทางรถไฟนับโหลขนาบทั้งสองข้างของตัวอาคารชานชะลา แต่มาตอนนี้มีเเค่เส้นทางรถไฟส่วนน้อยนิดนี้หลงเหลืออยู่เท่านั้น
เคยมีรถไฟหลายร้อยขบวนต่อสัปดาห์หยุดจอดที่ชานชะลาเเห่งนี้ เเต่ราวสี่สิบกว่าปีที่แล้ว การขนส่งสินค้าและผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปเป็นการขนส่งด้วยรถบรรทุกและการเดินทางทางเครื่องบินแทน ทำให้เส้นทางรถไฟจำนวนมากในรัฐมิสซูรี่ถูกเลิกใช้งาน พอมาถึงช่วงสามสิบกว่าปีที่แล้ว บรรดาผู้บริจาคเงินภาคเอกชนได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการเพื่อทำการปรับเส้นทางรถไฟในส่วนนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อดีตเส้นทางรถไฟ Katy ได้ถูกปรับให้เป็นทางเดินหินลูกรังที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเป็นหนึ่งในบรรดาเส้นทางเดินเพื่อสันทนาการแรกๆที่ยาวที่สุดในโครงการอนุรักษ์ National Rails to Trails Conservancy.
นักท่องเที่ยวบางคนได้กระโดดขึ้นบนจักรยานเพื่อทดสอบพลังการปั่นของตนบนทางหินลูกรัง พวกเขากำลังเตรียมพร้อมเข้าร่วมสัปดาห์ของการปั่นจักรยานระยะทางห้าสิบและแปดสิบกิโลเมตรต่อวัน ทัวร์ไกด์คนเดิมชี้ให้บรรดานักปั่นจักรยานดูเส้นทางตามทางรถไฟที่จะพาพวกเขาไปเมืองเซ็นท์หลุยส์
ไม่นานหลังจากนั้น บรรดานักปั่นจักรยานได้เริ่มปั่นจักรยานไปตามทางรถไฟร้างที่ปลอดจากยานยนต์ เส้นทางนี้ตัดผ่านป่าไม้เนื้อเเข็งและลอดอุโมงค์รถไฟหลายจุด ผ่านทุ่งข้าวโพดและลัดเลาะฝั่งเเม่น้ำมิสซูรี่ที่กว้างใหญ่ นักปั่นจักรยานกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนเกือบครึ่งล้านคนที่ใช้เส้นทางรถไฟ Katy สายเก่านี้ต่อปี มีนักท่องเที่ยวมากกว่าสองหมื่นคนเดินทางมาจากนอกรัฐ
คุณสเตซี่ ไฮค์เกส เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวจากนอกรัฐ เธอมาจากรัฐโคโลราโด้เเละจะปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามทางเส้นรถไฟสายเก่าเส้นนี้ท่ามกลางเสียงร้องเพลงของแมลงและใต้ร่มเงาของต้นไม้ในป่า
เธอบอกว่ารักการปั่นจักรยานมาก ทำให้เธอต้องเดินทางมาที่นี่ เธอชอบปั่นจักรยานในสถานที่ใหม่ๆเพื่อได้เห็นสิ่งใหม่ๆ แปลกหูแปลกตาไปจากเส้นทางปั่นจักรยานเดิมๆ เธอบอกว่าได้ยินมาว่าระหว่างทาง มีต้นโอ๊คใหญ่มาก น่าจะใหญ่ที่สุดในรัฐก็ว่าได้
บริษัทเอเย่นทัวร์ชื่อ Road Scholars เป็นผู้บริการจัดแผนการเดินทางของกลุ่มนักปั่นจักรยานกลุ่มนี้ โดยส่งเสริมให้มีการเเวะชมสถานที่ต่างๆระหว่างทาง อาทิ พิพิทธภัณฑ์หลายๆแห่ง ไร่องุ่นตามจุดต่างๆรวมทั้งเมืองหลวงของรัฐมิสซูรี่ด้วย
ค่าก่อสร้่างเส้นทางท่องเที่ยว Katy Trail นี้อยู่ที่หกล้านดอลล่าร์สหรัฐ แต่ทางการรัฐมิสซูรี่เสียค่าใช้จ่ายเพียงส่วนเล็กน้อยต่อปีในการดูแลรักษาเส้นทางที่ยาวถึง 390 กิโลเมตรนี้ คุณท็อด ไวท์ เจ้าของร้านเจักรยานเช่า Katy Bike Rental กล่าวว่าการลงทุนนี้คุ้มเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาใช้บริการ
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าผลการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจชี้ว่านักท่องเที่ยวนำเงินมาใช้จ่ายในพื้นที่ถึงสิบแปดล้านห้าแสนดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ทั้งเป็นค่าอาหาร ค่าเช่าจักรยานและค่าบริการในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
คุณไวท์กล่าวว่าหลายเมืองในรัฐมิสซูรี่ได้หันมาบังคับให้ถนนเส้นหลักหลายสายและสะพานต่างๆตลอดจนชุมชนที่อยู่อาศัยต่างๆให้สร้างเลนปั่นจักรยานควบคู่ไปด้วยเพื่อโยงเข้ากับเส้นทางรถไฟโบราณเพื่อการท่องเที่ยว Katy Trail เเห่งนี้ด้วย
ตั้งแต่โครงการอนุรักษ์เส้นทางรถไฟสาย Katy Trail เริ่มต้นขึ้น โครงการนี้ได้ช่วยปรับปรุงทางรถไฟร้างให้กลายเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเเล้วถึง 32,000 กิโลเมตร ทางโครงการตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างเครือข่ายระดับชาติที่โยงเส้นทางเพื่อสันทนาการต่างๆเข้าด้วยกัน