หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนจีนเปิดเผยแผนที่จะขยายความร่วมมือกับฝั่งสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการนำหุ้นของบริษัทจีนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ หลังหน่วยงานของสหรัฐฯ ยกระดับกฎการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทสัญชาติจีนและแสดงความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลจีนในการกำกับดูแลกิจการต่างๆ
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน (China Securities Regulatory Commission – CSRC) ระบุในคำแถลงที่มีออกมาในวันอาทิตย์ว่า ทางหน่วยงานได้รับรู้ถึงข้อกำหนดใหม่ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับเงื่อนไขการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจีนที่ต้องการนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และยืนยันว่า ทั้งสองฝ่าย “ควรส่งเสริมจิตวิญญาณของการให้ความเคารพกันและกัน” พร้อมๆ กับ “สนับสนุนให้มีการติดต่อสื่อสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ของจีน” ด้วย
ก.ล.ต. สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ตนจะบังคับให้บริษัทจีนทั้งหลายเปิดเผย “(ข้อมูล)ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการดำเนินแผนงานต่างๆ ในอนาคต โดยรัฐบาลจีน ที่อาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญกับภาวะการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง” ก่อนที่จะอนุญาตให้ทำการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้
ก.ล.ต. สหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า บริษัทที่มีแผนระดมทุนดังกล่าวต้องเปิดเผยข้อมูลว่า ตนเคยถูกปฏิเสธคำขออนุญาตจากทางการจีนให้นำหุ้นมาซื้อขายผ่านตลาดหุ้นสหรัฐฯ มาก่อนหรือไม่ รวมทั้งเรื่องของความเสี่ยงที่คำของดังกล่าวอาจถูกปฏิเสธหรือถูกยกเลิก
เมื่อไม่นานมานี้ จีนดำเนินการคุมเข้มนโยบายกำกับดูแลกิจการของตน ในด้านการนำหุ้นไปเสนอขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ หลังดำเนินการสอบสวนด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ต่อบริษัท Didi Global ผู้ให้บริการเรียกรถเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังบริษัทแห่งนี้นำหุ้นเข้าซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์ในนครนิวยอร์ก
นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรีจีนยังประกาศเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยว่า รัฐบาลจะทำการยกระดับการควบคุมบริษัทจีนทั้งหลายที่นำหุ้นไปซื้อขายในต่างประเทศ
(ที่มา: สำนักข่าว รอยเตอร์)