ประเทศโครเอเชียฉลองปีใหม่ด้วยการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 2 เหตุการณ์ นั่นคือการเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของสหภาพยุโรป หรือ อียู (Europen Union) ที่หันมาใช้เงินสกุลยูโร และเข้าร่วมเป็นภาคีของเขตเชงเกน (Schengen) ที่อนุญาตให้สมาชิกในกลุ่มสามารถเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องถือหนังสือเดินทาง ถือเป็นการบรรลุความตั้งใจที่มีมานานของโครเอเชียที่ต้องการใกล้ชิดแนบแน่นกับสหภาพยุโรปมากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเที่ยงคืนของวันเข้าปีใหม่ ตำรวจที่จุดข้ามแดนเบรกานา (Bregana) ติดกับประเทศสโลวีเนีย ได้ปลดป้ายต่าง ๆ ลง และนำแนวกั้นออกไป ก่อนที่จะนำป้าย “free passage” มาติดไว้ เป็นสัญลักษณ์การสิ้นสุดของการตรวจตราตามชายแดน
นายกรัฐมนตรีโครเอเชีย อันเดรย์ เปลงกอวิช (Andrej Plenković) ได้กล่าวในพิธีที่ชายแดนในวันอาทิตย์ว่า วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ทำให้ชาวโครเอเชียนรู้สึกเป็นเกียรติ ที่บรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของประเทศ
เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวกับผู้นำโครเอเชียด้วย และยังกล่าวว่านี่เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์และเป็นวันที่ควรเฉลิมฉลอง
หลังจากนั้น เปลงกอวิช และ ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ได้ไปเยี่ยมชมกรุงซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงโครเอเชียด้วยกัน และซื้อกาแฟโดยใช้เงินยูโร ที่ถูกนำมาใช้แทนสกุลเงินคูนา
โครเอเชียเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในปี 2013 เป็นชาติที่ 27 ที่เข้าร่วมภาคีเขตเชงเกน และเป็นประเทศที่ 20 ที่นำเอาเงินยูโรมาใช้
เมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโครเอเชียได้อ้างถึงประโยชน์ของการใช้สกุลเงินยูโรต่อสมาชิกรัฐสภา โดยกล่าวว่าเงินยูโรจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งขึ้น ทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น และทำให้โครเอเชียมีแรงต้านทานต่อแรงช็อคทางเศรษฐกิจจากภายนอกได้มากขึ้นอีกด้วย