อนามัยโลก ชี้วัยรุ่นติดโควิด-19 พุ่ง 3 เท่าตัวใน 5 เดือน

Director-General of the World Health Organization (WHO) Tedros Adhanom Ghebreyesus speaks during a news conference after a meeting of the Emergency Committee on the novel coronavirus (2019-nCoV) in Geneva, Switzerland January 30, 2020.

องค์การอนามัยโลก ออกโรงเตือนการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว หลังพบตัวเลขติดเชื้อพุ่งสูง 3 เท่าตัว ภายในระยะเวลา 5 เดือน ตามรายงานของรอยเตอร์

ทีมนักวิเคราะห์จากอนามัยโลก ระบุว่า ผู้คนอายุ 15-24 ปี มีการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวใน 5 เดือน และการท่องเที่ยวและท่องราตรีของคนหนุ่มสาว เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดของคนช่วงอายุนี้ทั่วโลก โดยอนามัยโลก อ้างอิงข้อมูลในช่วง 24 กุมภาพันธ์ ถึง 12 กรกฎาคม พบว่า มีสัดส่วนของผู้คนในช่วงอายุนี้ที่ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นจาก 15% จากเดิมที่มีเพียง 4.5% ทั่วโลก

สถิติดังกล่าว สอดรับกับข้อมูลจากกลุ่มประเทศยุโรป ทั้งสเปน เยอรมนี ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ที่พบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว และมีมาตรการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 ที่พุ่งเป้าไปที่กิจกรรมของคนหนุ่มสาว อย่างที่กรุงโตเกียวได้สั่งปิดสถานบันเทิงและไนท์คลับเมื่อไม่นานนี้ รวมทั้งฝรั่งเศสสั่งปิดบาร์เพื่อป้องกันการระบาดรอบใหม่

สถานการณ์ในบราซิล แม้ทางการบราซิลไฟเขียวให้มีการผลิตวัคซีนที่พัฒนาโดยจีนและอังกฤษภายใน 1 ปีข้างหน้า แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างกังวลว่ากรอบเวลาอาจจะยืดเยื้อกว่านั้น โดยขณะนี้บราซิลเปิดให้มีการทดสอบว่าที่วัคซีนโควิด-19 ที่อยู่ในขั้นการทดสอบกับมนุษย์ 2 ชนิด จาก AstraZeneca Plc ของอังกฤษ และ Sinovac Biotech ของจีน แลกกับเงื่อนไขว่าจะจัดสรรวัคซีนหลายสิบล้านโดสให้กับรัฐบาลบราซิล รวมทั้งให้เทคโนโลยีการผลิตแก่บราซิลเพื่อผลิตภายในประเทศ ซึ่งทางบราซิลตั้งเป้าว่าจะผลิตได้กลางปีหน้า แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2-10 ปี กว่าจะผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อระดับการระบาดในประเทศ ตามรายงานของรอยเตอร์ จากที่ตอนนี้บราซิลมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 2 โลกที่ 2.75 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 9.5 หมื่นคน

โบลิเวีย ผู้ประกอบการในประเทศช่วยกันทำบริการที่เผาศพเคลื่อนที่ เพื่อรับมือกับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นจนไม่มีสถานที่ฝังศพหรือเผาศพที่เพียงพอ จนบางครอบครัวต้องจำใจทิ้งร่างของบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไปด้วยโควิด-19 ไว้ตามข้างถนน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ตามรายงานของ Associated Press โดยที่โบลิเวียมีผู้เสียชีวิต 3,200 คน ติดเชื้อ 81,000 คน

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 18.4 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 7 แสนคน ส่วนสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อ 4.7 ล้านคน เสียชีวิต 1.56 แสนคน