ขณะนี้นักวิจัยสหรัฐฯที่รัฐเท็กซัสและบริษัท Biological E ในอินเดียสามารถพัฒนาวัคซีนต้านโคโรนาไวรัสที่มีราคาถูกโดยหวังว่าวัคซีนดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือประชากรในประเทศยากจนที่ยังมีปัญหาในการเข้าถึงวัคซีน
วัคซีนดังกล่าวที่มีชื่อว่า "คอร์บีเวกซ์" (Corbevax) ได้รับอนุมัติสำหรับการใช้อย่างจำกัดในกรณีฉุกเฉินจากรัฐบาลอินเดียเเล้ว โดยเป็นสูตรโปรตีนที่เป็นมาตรฐานสามัญ
วัคซีนนี้เป็นฝีมือของบริษัท ไบโอโลจิคอล อี (Biological E) ที่เมืองไฮเดอราบัด และนักวิจัยของแผนกพัฒนาวัคซีนของโรงพยาบาลเด็ก Texas Children's Hospital Center for Vaccine Development และวิทยาลัยเเพทย์ Baylor College of Medicine ที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส
ผู้พัฒนาเชื่อว่า "คอร์บีเวกซ์" เป็นสูตรวัคซีนต้านโควิดที่มีราคาถูกที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง และถูกกว่าสูตรที่ใช้เทคโนโลยี mRNA อย่างมาก พร้อมทั้งเชื่อว่าถูกกว่าวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งขณะนี้เป็นวัคซีนหลักสำหรับประชากรอินเดีย และประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ
ผู้สื่อข่าววีโอเอ สัมภาษณ์ เค ศรีนาฏ เรดดี ประธานมูลนิธิ Public Health Foundation of India ที่กล่าวว่า "คอร์บีเวกซ์น่าจะมีประโยชน์ ต่อความพยายามฉีดวัคซีนทั่วโลก เมื่อเกิดสิ่งท้าทายจากเชื้อกลายพันธุ์ เราจึงต้องมีวัคซีนเพิ่มสำหรับการฉีดประชาชนจำนวนมากขึ้น"
เขากล่าวเสริมว่าปัจจุบันประเทศตะวันตก "หมกมุ่นอยู่กับการให้เข็มบูสเตอร์ ส่วนประเทศที่เหลือของโลกยังคงต้องรอต่อไป"
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวด้วยว่าการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นมักมีต้นต่อมาจากประเทศที่มีระดับการฉีดวัคซีนต่ำ เช่นอินเดียและแอฟริกาใต้
ในเวลานี้ หลายประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งรวมถึงประเทศที่ขนาดใหญ่อย่างไนจีเรีย มีอัตรการฉีดวัคซีนไม่ถึงร้อยละ 5 ของประชากรทั้งหมด
ส่วนองค์การอนามัยโลยกำลังพยายามพลักดันให้เป้าการฉีดวัคซีนต่อประชากรโลกเเเตะระดับ 70% สำเร็จภายในกลางปีนี้