นักวิจัยชี้ควรเร่งฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงเพื่อสกัดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์

Your browser doesn’t support HTML5

Covid Vaccine

ขณะที่มีรายงานน่าวิตกเกี่ยวกับเชื้อโควิด - 19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่กลายพันธุ์นั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าวัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้ยังสามารถใช้ได้ผล แต่ก็เตือนว่าโลกควรต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากพอก่อนที่เชื้อโควิด-19 จะกลายพันธุ์มากขึ้นจนวัคซีนที่มีอยู่ไม่มีความหมาย

เมื่อปลายเดือนมกราคม ข้อมูลจากบริษัทเภสัชกรรม Janssen ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Johnson & Johnson ที่แสดงว่าวัคซีนของทางบริษัทได้ผล 66% สำหรับการป่วยจากโควิด-19 แบบปานกลางและรุนแรง และได้ผลเพียง 57% กับสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในแอฟริกาใต้นั้นอาจทำให้บางคนรู้สึกผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม คุณ Mathai Mammen หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Janssen ชี้ว่าเราไม่ควรตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะพาดหัวข่าวดังกล่าวอาจจะปิดบังข้อเท็จจริงที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ชาวแอฟริกาใต้ผู้ได้รับวัคซีนชนิดนี้ไม่มีใครที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเลย และไม่มีชาวแอฟริกาใต้คนไหนที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้แล้วเสียชีวิตลงด้วย

SEE ALSO: จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เตรียมขออนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ คาด 26 ก.พ. รู้ผล

ในขณะที่เชื้อโควิด-19 กำลังกลายพันธุ์ คุณ Jennifer Nuzzo นักวิจัยอาวุโสที่ศูนย์ความมั่นคงด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ก็ชี้ว่า หากวัคซีนสามารถป้องกันเราไม่ให้เจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ ผลลัพธ์ดังกล่าวก็ควรจะเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนเกมและจะสามารถช่วยให้เราค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ชีวิตที่เป็นปกติได้ในที่สุด

ในขณะนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา แต่ที่นักวิทยาศาสตร์เป็นห่วงที่สุดคือ การกลายพันธุ์ซึ่งทำให้รูปร่างของโปรตีนรูปหนามนั้นเปลี่ยนไปเป็นผลให้ไวรัสสามารถแทรกตัวเข้าไปในเซลล์ของเราได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากรูปร่างของโปรตีนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วัคซีนต่าง ๆ เท่าที่มีอยู่ขณะนี้ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผล

นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่า การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในแอฟริกาใต้เป็นเรื่องน่ากังวลเพราะผลการศึกษาในห้องทดลองแสดงว่าแอนตีบอดีจากผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และฟื้นตัวแล้วนั้นสามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้น้อยกว่าสายพันธุ์อื่นระหว่าง 11 ถึง 33 เท่าตัว ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนอาจจะป่วยซ้ำจากสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่มีการพิสูจน์ยืนยันก็ตาม

SEE ALSO: ผลการศึกษาพบวัคซีน 'แอสตราเซเนกา' ลดการแพร่โควิด-19 ลงได้ 2 ใน 3

นักวิจัยบอกว่า ถึงแม้โอกาสของเรื่องนี้จะค่อนข้างน่ากังวล แต่ก็ไม่คิดว่าประสิทธิผลของวัคซีนจะลดลงเหลือศูนย์ เพราะอย่างน้อยที่สุดผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีอาการเจ็บป่วยไม่รุนแรงเท่าหากเกิดติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมา นักวิจัยยังย้ำด้วยว่าเรื่องนี้ชี้ถึงความจำเป็นที่ควรต้องเร่งฉีดวัคซีนผู้คนทั่วโลกให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะหากยิ่งปล่อยให้เวลาเนิ่นนานออกไปขณะที่ไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่พันธุ์โดยไม่มีอะไรยับยั้ง โอกาสของการกลายพันธุ์จนทำให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลงก็จะตามมาได้

ส่วนศาสตราจารย์ William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัย Vanderbilt ได้เตือนว่า เรื่องสำคัญที่สุดเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ก็คือ คนทั่วไปอาจจะคิดว่าเมื่อได้รับวัคซีนแล้วเชื้อดังกล่าวจะหายไปได้เอง แต่ข้อเท็จจริงก็คือเชื้อโควิด-19 จะยังอยู่กับเราไปอีกนานหลายปี และมีโอกาสที่เราจะต้องได้วัคซีนโควิด-19 เป็นประจำทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง

และก็มีโอกาสเช่นกันว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องฉีดวัคซีนนั้น แขนขวาของเราอาจจะเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ ส่วนแขนซ้ายนั้นก็ควรเก็บไว้สำหรับวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน