สำนักงานตรวจสอบอิสระของรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ Government Accountability Office (GAO) ประเมินว่า รัฐบาลส่งเงินบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ให้แก่ผู้ที่มีสิทธิ์แต่เสียชีวิตไปแล้วเป็นมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์
สำนักงานตรวจสอบอิสระของรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ GAO รายงานในวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ ว่า รัฐบาลได้ส่งเช็คมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ให้แก่ผู้เสียภาษีและมีสิทธิ์พึงได้รับเงินก้อนนี้แต่เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 1.1 ล้านคน และคิดเป็นมูลค่าถึงกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลได้สั่งจ่ายเช็คและส่งเงินเข้าบัญชีประชาชนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐแล้วกว่า 160 ล้านรายการ ซึ่งคิดรวมเป็นเงินจำนวนถึง 269,000 ล้านดอลลาร์ และมีราว 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินก้อนดังกล่าวรวมทั้งเงินช่วยเหลือบุตรรายละ 500 ดอลลาร์ด้วย
GAO เปิดเผยว่า รัฐบาลใช้รายชื่อของผู้ที่ได้รับเงินภาษีประจำปี 2018 หรือ 2019 คืนเพื่อส่งเงินช่วยเหลือ แต่ไม่ได้พิจารณาถึงชื่อของผู้ที่เสียชีวิตระหว่างปี พร้อมเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ หรือ IRS เร่งทำการส่งเงินออกตามคำสั่งของรัฐสภา โดยนำส่งเช็คและเงินเข้าบัญชีราว 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมดโดยไม่ได้เช็คสถานภาพของผู้รับกับสำนักงานประกันสังคมสหรัฐฯ หรือ Social Security Administration ก่อน
และแม้ผู้รับผลประโยชน์ของผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือนี้แต่เสียชีวิตไปแล้วคิดว่าตนเองมีสิทธิ์เก็บเงินไว้ใช้ ทาง IRS ประกาศออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ทุกคนที่อยู่ในข่ายดังกล่าวควรส่งเงินกลับคืน แต่ GAO ระบุในรายงานว่า จนถึงบัดนี้ IRS ยังไม่ได้แจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายใดว่าให้นำส่งเงินคืนด้วยวิธีใดเลย
นอกจากนั้น GAO ยังรายงานด้วยว่า เงินช่วยเหลือสำหรับธุรกิจขนาดย่อม ผ่านโครงการ Paycheck Protection Program บางส่วน ถูกส่งถึงมือธุรกิจขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทมหาชนหลายแห่งแทน ซึ่งเป็นความผิดพลาดขององค์กรบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ (Small Business Administration – SBA) ที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาตรการนี้