Your browser doesn’t support HTML5
ขณะที่หลายประเทศและหลายมลรัฐของสหรัฐกำลังพยายามผ่อนคลายมาตรการควบคุมและหันมาเปิดเศรษฐกิจนั้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือและจัดการกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบสองหรือรอบสามนั้นสำคัญพอๆ กับการป้องกันและควบคุมผู้ติดเชื้อในปัจจุบันเลยทีเดียว
ขณะนี้หลายประเทศที่เริ่มปลดการล็อกดาวต้องกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง อย่างเช่นการระบาดที่ตลาดในเมืองเชนไนของอินเดียเมื่อวันพุธทำให้ทางการต้องกักบริเวณผู้คนถึงราวเจ็ดพันคน ส่วนในบางประเทศ เช่น บราซิลและประเทศในทวีปแอฟริกานั้นการระบาดยังอยู่ในรอบแรกด้วยซ้ำไปสำหรับในบางประเทศของยุโรป เช่น อิตาลีกับเยอรมนีซึ่งกำลังเริ่มมาตรการผ่อนคลาย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอิตาลีเตือนว่าจะมีการระบาดครั้งที่สองเกิดขึ้นส่วนเยอรมนีก็เตือนเรื่องการระบาดระลอกสองหรืออาจจะระลอกสามด้วยซ้ำไป โดยนายแพทย์โอลิวิเยร์ ชวาตส์ หัวหน้าหน่วยไวรัสและภูมิคุ้มกันของสถาบันพลาสเตอร์ในฝรั่งเศสกล่าวว่าจะมีการระบาดเป็นระลอกสองอย่างแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนเตือนด้วยว่าถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้จะมีถึงกว่า 3 ล้าน 6 แสนคนและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วทั่วโลกราว 2 แสน 5 หมื่นคนก็ตาม แต่ตัวเลขที่แท้จริงยังสูงกว่านี้อีกมากเพราะการตรวจหาเชื้อยังทำได้อย่างจำกัดในหลายประเทศและเกณฑ์พิจารณาเรื่องผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก็แตกต่างกันไป รวมทั้งรัฐบาลของหลายประเทศยังคงปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่
ในด้านการตรวจหาเชื้อ เยอรมนีเป็นประเทศซึ่งได้รับคำชมว่าสามารถเร่งตรวจหาเชื้ออย่างกว้างขวางและมีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าในอังกฤษกับอิตาลีถึงสี่เท่าทั้งๆ ที่มีประชากรมากกว่า และผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของเยอรมนียอมรับว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์รู้ว่าจะมีการระบาดระลอกที่สองอย่างแน่นอนและเยอรมนีก็พร้อมจะรับมือกับเรื่องนี้รวมทั้งพร้อมจะกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกทันทีถ้าเห็นว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ส่วนอังกฤษซึ่งยอมรับว่าไม่ได้มีมาตรการตรวจเชื้อและสืบสวนโรคเท่าที่ควรในช่วงแรกกำลังเตรียมบุคลากรอีกราว 1 หมื่น 8 พันคนให้พร้อมสำหรับการระบาดรอบสองที่อาจจะเกิดขึ้น
เห็นได้ชัดว่าประเทศต่างๆ กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดรอบใหม่ที่อาจมีขึ้นหลังจากที่ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มไปแล้วและสำหรับในสหรัฐเองซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในพื้นที่นอกเมืองใหญ่และในเขตที่มีประชากรไม่หนาแน่นนั้น นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กซึ่งเคยเป็นจุดศูนย์กลางของการระบาดก่อนหน้านี้เตือนว่ายิ่งเราเร่งเปิดธุรกิจเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจเร็วเท่าใดความสูญเสียของชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ผู้กำลังผลักดันให้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดควบคุมเพื่อช่วยชุบชีวิตทางเศรษฐกิจก็กล่าวว่าการปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไปจะสร้างผลเสียหายร้ายแรงในรูปของการใช้ยาเสพติดและการฆ่าตัวตายเช่นกัน และว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบโดยจะมีคนบางกลุ่มได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้คือการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งและเราจะต้องทำได้ในไม่ช้า