Your browser doesn’t support HTML5
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมฉุกเฉินกรณีการระบาดของโคโรนาไวรัส เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงสำหรับประชากรโลก พร้อมหารือคำแนะนำเพื่อรับมือกับสถานการณ์ ขณะที่หลายประเทศเร่งออกมาตรการรับมือการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ก่อนวันหยุดตรุษจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้
จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ตัวเลขพุ่งเกินกว่า 500 ไปแล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสที่เริ่มระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ของจีน เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 17 รายในประเทศจีน
องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้นานาประเทศดำเนินมาตรการเตรียมการต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้าง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจาก WHO และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนกำลังเร่งสืบสวนสถานการณ์การระบาดอยู่ เพื่อช่วยระงับความตื่นตระหนกของสาธารณชน และหามาตรการป้องกันที่จำเป็น
ทาริค จาราเซวิช (Tarek Jarasevic) โฆษกองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ยังต้องมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีการอุบัติและระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ เพราะข้อมูลที่ทุกฝ่ายมีอยู่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ตัวไวรัสมีการแพร่เชื้อได้อย่างไร และลักษณะอาการทางคลินิก ความรุนแรงของโรค ขอบเขตการกระจายของไวรัสเป็นอย่างไร รวมถึงแหล่งกำเนิดของไวรัสคืออะไร
อย่างไรก็ตาม จาราเซวิช บอกว่า หากมองย้อนไปดูการระบาดของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในอดีต กรณีโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้น่าจะอยู่ในขั้นของการติดต่อจากคนสู่คนในระดับจำกัดอยู่ พร้อมให้ความเห็นว่า ไวรัสอู่ฮั่นนี้ยังไม่ใช้กรณีของโรคที่แพร่กระจายเชื้อทางอากาศได้ และการติดต่อนั้นจะเกิดขึ้น เมื่อมีการสัมผัสระหว่างคนถึงจะมีการติดเชื้อได้
ในส่วนของการพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกา สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ มองว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
นายแพทย์ แอนโธนี่ เฟาชี่ (Dr. Anthony Fauci) ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ให้ความเห็นว่า การระบาดของโรคในประเทศขนาดใหญ่เช่นจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประกอบการปริมาณการเดินทางระหว่างจีนและสหรัฐฯ ย่อมชี้ให้เห็นว่า ไม่ช้าก็เร็ว ต้องมีการพบการติดเชื้อที่สหรัฐฯ ซึ่งก็เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะที่ทางการสหรัฐฯ เดินหน้าติดตามอาการของผู้ที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออยู่ ที่สนามบินนานาชาติ John F. Kennedy สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก และสนามบินนานาชาติลอส แอนเจลิส ที่ประเมินกันว่าจะเป็นจุดผ่านเข้าเมืองของผู้ที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นมากถึงราว 5,000 คน เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งระบบตรวจคัดกรองผู้โดยสารไว้แล้ว ขณะที่ หน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี (U.S. Center for Disease Control and Prevention) เปิดเผยว่า ได้พัฒนาการทดสอบไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ที่จะนำมาใช้ในประเทศและนอกประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนที่ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ สั่งยกระดับจุดตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อที่สนามบินและจุดผ่านเข้าประเทศทั้งหลาย ก่อนที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาในช่วงวันหยุดตรุษจีน โดยเมื่อปีที่แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกัน สูงถึงกว่า 9 ล้านคน ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะเน้นการคัดกรองเป็นพิเศษกับผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น พื้นที่ระบาดหนักในจีน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ เฝ้าติดตามและเฝ้าระวังดูอาการผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศพร้อมกับผู้ติดเชื้อ 1 เดียวของญี่ปุ่นอยู่
ที่เกาหลีใต้ หลังพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ทางการสั่งประกาศการตรวจคัดกรองผู้ป่วยระดับเข้มข้นที่สนามบินอินชอน ใกล้กับกรุงโซล ซึ่งเป็นสนามบินเดียวที่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองอูฮั่น ซึ่งทางการได้เตรียมช่องทางให้สำหรับผู้โดยสารจากเส้นทางดังกล่าวโดยเฉพาะ และเพิ่มการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆทั่วสนามบินเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง พร้อมใช้ยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆ วันละ 2 ครั้งด้วย
ด้านสิงคโปร์และมาเลเซีย มีการยกระดับและเพิ่มจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินหลัก ทั้งสนามบินชางฮีและสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เพื่อรับมือกับการระบาดของโคโรนาไวรัสเช่นกัน
ที่ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านชีวภาพและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าประจำสนามบินต่างๆ เพื่อคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น หลังมีผู้โดยสารคนหนึ่งถูกกักตัวไว้ในเมืองบริสเบน เนื่องจากมีอาการของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหลังเดินทางกลับมาจากเมืองดังกล่าว แต่รายงานข่าวแจ้งว่าชายผู้นี้มีอาการดีขึ้นแล้ว
และที่ฮ่องกง ทางการสั่งยกระดับการเฝ้าระวังและมาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบินและรถไฟที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น รวมทั้งที่สถานีรถไฟและสนามบินด้วย โดยรักษาการผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง แมทธิว เชิง แสดงความมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมที่จะรับมือแม้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้