Your browser doesn’t support HTML5
Coronavirus Econ Impact
หลังจากที่เกิดการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นักวิเคราะห์พยายามประเมินความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจประเทศจีน และประเทศที่พึ่งพากำลังซื้อจากจีน
ก่อนเกิดเหตุระบาด รัฐบาลปักกิ่งหวังว่ากำลังซื้อของคนในประเทศจะเป็นเเรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อมีการสั่งควบคุมประชากรในหลายเมืองทางตอนกลางของประเทศ
เจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชนอยู่ในบ้าน และคนจำนวนมากไม่กล้าออกไปซื้อของ ทานอาหารที่ร้าน ดูภาพยนตร์ที่โรงหนัง และท่องเที่ยวตามปกติ
China coronavirus
บรรยากาศแห่งความไม่มั่นใจ เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเริ่มต้นในวันเสาร์และเป็นมหกรรมแห่งจับจ่ายของปี
เจ้าหน้าที่ในหลายส่วนของประเทศจีนสั่งปิดโรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดของโคโรนาไวรัส ที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
ณ วันอาทิตย์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนอยู่ที่ เกือบ 2 พันคน และมีคนเสียชีวิตแล้ว 56 รายจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกทางเทคนิคว่า สายพันธุ์ 2019-nCoV
หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า การใช้จ่ายภายในประเทศของจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยง ท่ามกลางการระบาดครั้งนี้
แม้ก่อนเกิดการระบาด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีที่เศรษฐกิจจีน อาจชะลอการขยายตัวลงจาก 6.1% เมื่อปีที่แล้ว The Wall Street Journal รายงานการวิเคราะห์ของธนาคารฝรั่งเศส Societe Generale ซึ่งระบุว่า หากอัตราการระบาดของโคโรนาไวรัสยังคงไม่นิ่ง ในเดือนมีนาคม เศรษฐกิจจีนอาจเติบโต ต่ำกว่า 6% ในปีนี้
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตัวเลขการขยายตัว 6% มีความสำคัญทางจิตวิทยาต่อจีน เพราะเป็นระดับที่สามารถทำให้ผู้บริหารประเทศบรรลุเป้าหมายที่เคยประกาศว่าจะเพิ่มขนาดเศรษฐกิจให้เป็นสองเท่าจากปีเมื่อ 10 ปีก่อน
CHINA-CORONAVIRUS
การระบาดของโคโรนาไวรัสครั้งนี้ สร้างความกังวลว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับการระบาดของโรค SARS (Severe Acute Respiratory Syndrome) หรือ โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงเมื่อราว 17 ปีก่อน โดยที่ SARS เกิดจากสายพันธุ์หนึ่งของโคโรนาไวรัสเช่นกัน โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 770 คน
นักวิเคราะห์ให้ตัวเลขผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก SARS ไว้ว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่สองของปี ค.ศ. 2003 ชะลอการขยายตัว มาอยู่ที่ร้อยละ 9.1 จากการขยายตัวร้อยละ 11.1 ในไตรมาเเรกของปีดังกล่าว
นักวิเคราะห์ โจว หาว แห่งธนาคาร Commerzbank บอกกับ The Wall Street Journal ว่า ในอดีตเศรษฐกิจของจีนแตกต่างจากปัจจุบันซึ่งพึ่งพาการจับจ่ายของผู้บริโภค ตรงที่ ในตอนนั้นพลังขับเคลื่อนมาจาการลงทุนที่มีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนหลัก
ขณะเดียวกัน เฉิน กง นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ประเมินว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการระบาดครั้งล่าสุดนี้อาจมีมูลค่า 40,000 ล้านหยวน หรือกว่า 174,000 ล้านบาท
People wear masks on a train on the first day of the Lunar New Year of the Rat in Hong Kong on January 25, 2020, as a preventative measure following a coronavirus outbreak which began in the Chinese city of Wuhan.
The Wall Street Journal ระบุว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศจีนเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบรุนแรง
ตามปกติรายได้จากตั๋วหนังเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ยาวนาน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 10 ของรายได้รวมทั้งปีในประเทศจีน และมีรายงานว่าภาพยนตร์ 7 เรื่องที่มีกำหนดลงโรงในช่วงนี้ระงับการเปิดตัวไปแล้ว ส่วนสวนสนุก ดิสนีย์แลนด์ที่นครเซียงไฮ้ปิดไม่รับนักท่องเที่ยวเมื่อวันศุกร์ และเสนอจ่ายเงินคืนให้กับลูกค้าที่ซื้อบัตรไปแล้วก่อนหน้านี้
สำหรับเมืองอู่ฮั่น เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด และเป็นจุดที่มีการควบคุมผู้ป่วยเพื่อดูอาการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ เมืองดังกล่าวเปรียบเหมือนเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อภูมิภาคตอนกลางของจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีโรงงานรถยนต์ระดับโลก อย่างเช่น ศูนย์การผลิตของบริษัท General Motors อยู่ที่นั่น
SEE ALSO: จีนสั่งปิดเพิ่ม 2 เมืองเพื่อเพิ่มระดับเฝ้าระวังและยับยั้งภัยโคโรนาไวรัส
นอกจากนี้ ในภาคคมนาคมขนส่ง ทางการจีนกล่าววันอาทิตย์ว่า ตัวเลขผู้เดินทางทางรถไฟและทางเครื่องบิน ในวันเเรกของเทศกาลตรุษจีน ลดลง 41% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักวิเคราะห์ยังได้ประเมินผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ โดยบริษัท Fitch Ratings ระบุว่าประเทศที่พึ่งพารายได้ที่เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวจากจีนจะได้รับความเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น สิงคโปร์ ไทยและฮ่องกง ตามรายงานของสื่อ Straits Times แห่งสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม DBS Group Research ชี้ว่า ประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านการดูแลผู้ป่วย และนโยบายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน น่าจะสามารถจำกัดความรุนแรงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ และอาจจะฟื้นตัวได้เร็วอีกด้วย
(ที่มา: VOA News, The Wall Street Journal และ Straits Times)