อนามัยโลกย้ำ ทั่วโลกต้องช่วยกันสู้โควิด-19 ขณะที่ยุโรปเผชิญหน้าการระบาดรอบใหม่

World Health Organization (WHO) Director-General Tedros Adhanom Ghebreyesus attends a news conference organized by Geneva Association of United Nations Correspondents (ACANU) amid the COVID-19 outbreak, caused by the novel coronavirus.

องค์การอนามัยโลก กล่าวย้ำความจำเป็นที่รัฐบาลและประชาชนทั่วโลกต้องช่วยกันต่อสู้กับการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่อยู่

เทดรอส อัดนอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ว่า ทุกประเทศและทุกคนต้องร่วมกันทำทุกอย่างที่จำเป็น ตั้งแต่การทำการทดสอบการติดเชื้อ ไปจนถึงการติดตามตัวผู้ที่เคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การรักษาระยะห่างทางสังคม และการสวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ อย่างต่อเนื่องเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัสนี้

คำเรียกร้องขององค์การอนามัยโลกนี้มีออกมาอีกครั้ง ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งขึ้นในหลายพื้นที่ และข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่กว่า 18.1 ล้านคน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 690,000 คนแล้ว

องค์การอนามัยโลกยังย้ำด้วยว่า โลกยังไม่สามารถค้นคว้าหายารักษาโควิด-19 ให้หายขาดได้ในเวลานี้ และมีความน่าจะเป็นว่าอาจจะไม่มีวันค้นพบได้ แม้ว่าโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 หลายโครงการจะมีความคืบหน้าเข้าสู่การทดสอบในขั้น 3 ซึ่งหมายถึงการทดลองกับคนเป็นจำนวนมาก ที่ให้ความหวังว่าจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสได้ในที่สุด

People wearing protective face masks walk down the street, as the city and surrounding areas face local restrictions in an effort to avoid a local lockdown being forced upon the region, in Manchester, Britain, Aug. 3, 2020,

ในส่วนของสถานการณ์ทั่วโลกนั้น สเปน อังกฤษ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส และเยอรมนี คือกลุ่มประเทศในยุโรปที่กลับมารายงานตัวเลขการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เกิดความกลัวว่า การระบาดใหญ่ระลอกที่ 2 กำลังกลับมาที่ภูมิภาคนี้อีกครั้ง

ทั้งนี้ หลายประเทศในยุโรปเพิ่งกลับมาบังคับใช้คำสั่งจำกัดการเดินทางรวมทั้งมาตรการควบคุมอื่นๆ อีกครั้ง เช่น ที่อังกฤษ ซึ่งรัฐบาลสั่งใช้มาตรการห้ามการชุมนุมของคนภายนอกครัวเรือนภายในอาคารและสถานที่ต่างๆ ใน 3 เมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศ หลังมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากทั่วประเทศเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 4,900 คนต่อวัน

ดร.ปีเตอร์ โดรแบค แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ในวันจันทร์ว่า สิ่งที่สำคัญคือการที่รัฐบาลต่างๆ ลงมือดำเนินการอย่างรวดเร็วในการต่อสู้กับการระบาด และหากประเทศทั้งหลายทำการรับมือการแพร่กระจายของไวรัส รวมทั้งชะลอการเปิดกิจกรรมต่างๆ และทำการใดๆ ก็ตามที่สามารถลดการระบาด ทั่วโลกน่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก่อนที่การแพร่กระจายของไวรัสจะรุนแรงหนักขึ้น

Workers push trolleys past an empty shop in Melbourne’s central business district on August 3, 2020 after the state announced new restrictions as the city battles fresh outbreaks of the COVID-19 coronavirus. - Australia's Victoria state imposed fresh, swe

ส่วนที่ออสเตรเลีย รัฐบาลออกคำสั่งให้ธุรกิจที่ถือว่าไม่มีความจำเป็นในนครเมลเบิร์น เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ ปิดทำการเป็นเวลา 6 สัปดาห์ตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดในเมืองนี้ที่รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในสัดส่วนเกือบทั้งหมดของตัวเลขรวมทั่วประเทศ

หน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลียรายงาน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในวันจันทร์ที่ 429 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 13 รายในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครเมลเบิร์น

Filipinos queue outside a pharmacy, a day before the Philippine capital goes back to a stricter lockdown amid coronavirus disease (COVID-19) infections spike, at a public market in Manila, Philippines, August 3, 2020. REUTERS/Eloisa Lopez

ขณะเดียวกัน รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกคำสั่งล็อคดาวน์กรุงมะนิลาและพื้นที่ของ 5 จังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมทะลุระดับ 100,000 คน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภายใต้คำสั่งดังกล่าว ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกนอกเคหสถานไปทำกิจที่จำเป็นเท่านั้น ขณะที่ระบบการขนส่งมวลชนทั้งหมดจะหยุดให้บริการไปด้วย