วอลมาร์ท ประกาศบังคับลูกค้าให้ใส่หน้ากากเมื่อเข้าใช้บริการ

FILE - Shoppers wearing face masks are pictured outside a Walmart Superstore during the coronavirus pandemic, in Rosemead, California, June 11, 2020.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


บริษัท วอลมาร์ท กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศนโยบายใหม่ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ที่จะบังคับให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการในร้านค้าทั่วประเทศ ต้องสวมใส่หน้ากากหรือวัสดุปิดหน้า เพื่อช่วยควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุใหม่

ขณะที่อัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและรัฐบาลหลายแห่งได้ออกคำแนะนำและคำสั่งให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และวอลมาร์ท ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัดสินใจดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัตินี้ตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป

วอลมาร์ท เปิดเผยว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของร้านค้าจำนวนกว่า 5,000 แห่งของบริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งแบรนด์วอล์มาร์ท และร้านค้าส่ง แซมส์ คลับ เอาท์เล็ท อยู่ในพื้นที่รัฐที่รัฐบาลท้องถิ่นบังคับใช้กฎการสวมหน้ากากหรือปกปิดใบหน้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะและในพื้นที่ปิดแล้ว

ทั้งนี้ สมาพันธ์ธุรกิจค้าปลีกแห่งชาติ หรือ National Retail Federation (NRF) เดินหน้าผลักดันในวันพุธ ให้ผู้ค้าปลีกทั่วประเทศดำเนินนโยบายบังคับให้ลูกค้าของตนสวมใส่หน้ากาก และทางกลุ่มแสดงความหวังว่า การตัดสินใจของวอลมาร์ทครั้งนี้จะช่วยทำให้บริษัทอื่นๆ ปฏิบัติตามในที่สุด

ก่อนหน้านี้ เครือร้านจำหน่ายอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ เบสท์บาย และเครือร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ ออกประกาศให้ผู้มาใช้บริการทุกคนในสหรัฐฯ ต้องสวมใส่หน้ากากไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ผู้ค้าปลีกอีกหลายรายพยายามแนะนำให้ลูกค้าใส่หน้ากากมาหลายเดือน แต่ยังไม่กล้าบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ลูกค้าไม่พอใจ