Your browser doesn’t support HTML5
ในขณะที่จีนยังแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลก จนมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 3.7 ล้านคน และเสียชีวิตไปกว่า 260,000 คน ตามข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัย จอห์นส ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กลับออกมายอมรับว่า ในเวลานี้ สหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชี้ว่า ไวรัสนี้มีที่มาจากไหน
ในช่วงสัมภาษณ์กับสถานีข่าว ฟ๊อกซ์ บิสซิเนส เมื่อคืนวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ พอมเพโอ ยังคงยืนยันว่า ตนเองได้เห็นหลักฐานที่ชี้ว่า โควิด-19 มาจากสถาบันไวรัสวิทยาแห่งเมืองอู่ฮั่น พร้อมท้าให้ผู้ที่มีหลักฐานที่ต่างจากนี้นำออกมาพิสูจน์ด้วย
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว รมต.พอมเพโอ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News ว่าสหรัฐฯ มี “หลักฐานชิ้นใหญ่” ที่ชี้ว่าการระบาดของโคโรนาไวรัส มีต้นกำเนิดมาจาก ห้องทดลองแห่งหนึ่งที่เมืองอู่ฮั่น ในประเทศจีน และคำสัมภาษณ์นี้ทำให้จีนออกมาโต้ตอบอย่างรุนแรง และกล่าวหาว่า พอมเพโอ “แพร่คำโกหก” รวมทั้งว่าคำกล่าวเช่นนั้นเป็น “ถ้อยแถลงที่เสียสติและเลื่อนลอย”
การออกมายืนยันของรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรับมือของการระบาดที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 75,000 คน และทำให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัวหนัก
ทั้งนี้ พอมเพโอ กล่าวว่า ความเชื่อของเขาในเรื่องต้นตอของไวรัสไม่ได้ขัดแย้งกับความเห็นของเจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลท่านอื่นๆ ที่แสดงความสงสัยในทฤษฎีโควิด-19และประเทศจีนของเขา
พอมเพโอ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันพุธว่า สหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้น ทุกอย่างยังคงเป็นไปได้อยู่
นอกจากนั้น รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันด้วยว่า โดยรวมแล้ว จุดยืนของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมทั้งตัวเขาเอง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศพันธมิตรที่มีภาษาประจำชาติเป็นภาษาอังกฤษ 5 ประเทศ หรือกลุ่ม Five Eyes และหน่วยงานข่าวกรองทั้งหลาย ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยู่ ซึ่งก็คือ การค้นหาว่าไวรัสชนิดนี้เริ่มต้นมาจากที่ใดกันแน่
และในวันพุธเดียวกันนี้เอง หัว ชุนยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รมต.พอมเพโอ ไม่สามารถนำหลักฐานออกมาแสดงประกอบคำกล่าวหาได้ เพราะเขาไม่มีหลักฐานใดๆ เลยต่างหาก และระบุว่า ประเด็นที่มาของไวรัสควรเป็นหน้าที่ของนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นักการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็นเพื่อเกมการเมืองในประเทศ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง นพ.แอนโธนี เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ แสดงความสงสัยต่อทฤษฎีว่าไวรัสนี้เกิดขึ้นในห้องทดลอง ขณะที่ ประธานคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของสหรัฐฯ พลเอกมาร์ค มิลลีย์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ยังไม่มีข้อสรุปจากหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีดังกล่าวด้วย
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ฉบับพิเศษที่ระบุว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เผยแพร่ในวงกว้าง พบว่าโควิด-19 ไม่ได้สร้างขึ้นโดยมนุษย์หรือมาจากการตัดต่อพันธุกรรมใดๆ แต่จะยังค้นหาข้อมูลต่อไปว่า “การระบาดของไวรัสมาจากการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่มนุษย์ หรือเป็นผลจากอุบัติเหตุในห้องแลบในเมืองอู่ฮั่น” นอกจากนั้น การประเมินของหน่วยข่าวกรองต่างๆ ในประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ ชี้ว่า ไวรัสนี้ไม่น่าถือกำเนิดจากห้องทดลองเช่นกัน