Your browser doesn’t support HTML5
รัฐบาลสหรัฐฯ ควักเงินกว่า 110 ล้านดอลลาร์เพื่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยราคาแพงจากผู้จัดจำหน่ายที่ไม่รู้จัก เพื่อมารับมือวิกฤติการระบาดของโควิด-19
หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งซื้อหน้ากากอนามัย N95 จำนวนกว่า 20 ล้านชิ้นที่มีกำหนดส่งภายในเดือนพฤษภาคมจากผู้จัดจำหน่ายหลายราย แต่อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อนี้ไปที่ซัพพลายเออร์ที่รัฐบาลไม่เคยทำธุรกิจด้วย หรือเคยสั่งแต่สินค้าไม่มากและไม่ใช่เวชภัณฑ์
รายงานข่าวระบุว่า ผู้จัดจำหน่ายบางรายผิดนัดส่งไปบ้างแล้ว ขณะที่บางรายขอยกเลิกคำสั่งซื้อเนื่องจากมีสินค้าไม่เพียงพอจัดส่ง และบริษัทแม่ของซัพพลายเออร์รายหนึ่งเพิ่งประกาศภาวะล้มละลาย ขณะที่เจ้าของถูกฟ้องคดีฉ้อโกงด้วย
ภายใต้ภาวะเร่งด่วนเช่นนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมจ่ายเงินค่าหน้ากากในราคาเกือบชิ้นละ 6 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาปกติถึง 6 เท่า แต่สูงพอๆ กับราคาที่มีการซื้อขายในช่วงนี้
รายงานข่าวยังบอกด้วยว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวกับวิกฤติโควิด-19 ที่มีมูลค่าถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยงบประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ของเงินจำนวนนี้เป็นการสั่งซื้อหน้ากาก N95 จากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง เช่น 3M และ Honeywell ในราคาไม่ถึง 1 ดอลลาร์ และมีระยะเวลาการจัดส่งไปถึงปลายปี ค.ศ. 2021