ทางการอินเดียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 403,000 คนในวันอาทิตย์ ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเกิน 4,000 คน เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 4,300 รายเมื่อวันเสาร์
จนถึงขณะนี้ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ยังคงมิได้ประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศเพื่อควบคุมการระบาดระลอกที่สอง แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากบรรดานักการเมืองฝ่ายค้านและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ในขณะที่รัฐบาลส่วนท้องถิ่นในหลายรัฐได้ประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์เฉพาะเขตปกครองของตนแล้ว
รัฐบาลท้องถิ่นกรุงนิวเดลีประกาศขยายเวลาการล็อคดาวน์ไปจนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม รวมทั้งหยุดบริการระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ ขณะที่ทางการรัฐทมิฬนาดูเตรียมเพิ่มมาตรการควบคุมการระบาดเช่นกัน
เมื่อวันเสาร์ หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก โสมยา สวามินาธาน (Soumya Swaminathan) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวของฝรั่งเศสว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับอินเดียในขณะนี้บ่งชี้ว่า เชื้อโคโรนาไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์ B.1.617 สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วที่สุด และมีอันตรายกว่าสายพันธุ์เดิมมาก ซึ่งนอกจากจะทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ จนวัคซีนที่มีอยู่อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การใช้มาตรการห้ามการชุมนุมของประชาชนจำนวนมากและการบังคับสวมหน้ากาก ยังคงเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อป้องกันการระบาด
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 157.7 ล้านคน เสียชีวิตแล้ว 3.3 ล้านคน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียเพิ่มขึ้นเกินระดับ 22 ล้านคน เป็นรองเพียงแค่สหรัฐฯ ที่มีผู้ติดเชื้อ 32.6 ล้านคน