Your browser doesn’t support HTML5
ยอดผู้เสียชีวิต และผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และไทย รายงานผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ ทำให้รัฐบาลในหลายประเทศประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการระบาด
ผู้เสียชีวิตในไทยเป็นชายวัย 35 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ก่อนที่จะติดเชื้อ COVID-19 ร่วมด้วย ส่วนที่ออสเตรเลีย เป็นชายวัย 78 ปี ซึ่งเป็นผู้โดยสารคนหนึ่งของเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซสส์ ที่กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ทำให้มีผู้ป่วยอย่างน้อย 700 คน
ในสหรัฐฯ ผู้เสียชีวิตเป็นชายวัยห้าสิบกว่า ๆ ที่อาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งมีปัญหาด้านสุขภาพมาก่อน แต่ชายคนนี้ไม่มีประวัติว่าติดเชื้อจากการเดินทาง จึงทำให้คาดการณ์กันว่านี่จะเป็นการระบาดภายในชุมชน ทำให้ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน
ในวันอาทิตย์ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คนในรัฐวอชิงตัน เป็นชายอายุประมาณ 60 ปี และมีปัญหาทางสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีการสงสัยว่าอาจจะเกิดการระบาดในสถานดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในรัฐอีกด้วย
นอกจากนี้ รัฐโรด ไอส์แลนด์ ยังแถลงในวันอาทิตย์ว่ามีผู้เข้าข่ายติดเชื้อเป็นรายแรกของรัฐ เป็นชาวอเมริกันในช่วงวัย 40 ปี ที่เดินทางไปอิตาลีเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อและเข้าข่ายติดเชื้อทั้งหมด 74 คน โดย 24 คนเกิดจากการติดเชื้อภายในประเทศ
ด้านบริษัทยา Gilead Sciences ของอเมริกาเผยว่าจะเริ่มนำยา remdesivir ไปทดลองใช้ทดลองกับผู้ป่วยประมาณ 1,000 คนในเดือนนี้ ซึ่งยา remdesivir ถือว่าเป็นยาที่น่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ที่จะใช้รักษาโคโรนาไวรัส ก่อนหน้านี้ มีการนำไปทดลองใช้มาก่อนที่เมืองอู่ฮั่น
นอกจากนี้ หลาย ๆ ประเทศ ยังรายงานว่าพบการติดเชื้อ COVID-19 รายแรก ในช่วงสุดสัปดาห์ เช่น กาตาร์ เอกวาดอร์ สาธารณรัฐโดมินิกัน อาร์มีเนีย ลักเซมเบอร์ก และไอร์แลนด์
ส่วน สก็อตแลนด์และสาธารณรัฐเชค รายงานว่าผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศได้เดินทางไปยังตอนเหนือของอิตาลี
ด้านพระสันตะปาปา ฟรานซิส ยังคงประชวรเพราะหวัด และยกเลิกกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเวลาสามวันแล้ว ในขณะที่ยอดการติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในอิตาลียังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเอเชีย จำนวนผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้และอิหร่านพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,150 คน ส่วนทางการอิหร่านรายงานในวันอาทิตย์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 54 คน หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเกือบหนึ่งพันคน
นั่นทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกกฎเพิ่ม โดยห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางไปยังอิหร่านในช่วงสิบสี่วันที่ผ่านมาเดินทางเข้าประเทศ และยังยกระดับคำเตือนพลเมืองเป็น “ห้ามเดินทาง” ไปยังอิตาลี และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากที่สุดรองจากจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้ทวีตในวันอาทิตย์ว่า ผู้ที่เดินทางมากจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง จะถูกตรวจคัดกรองหาไวรัสก่อนขึ้นเครื่องและอีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงอเมริกา
ทางฝั่งยุโรป ฝรั่งเศสประกาศห้ามไม่ให้มีการชุมนุมของผู้คนมากกว่า 5,000 คนเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส ซึ่งรวมถึงงานวิ่งปารีส ฮาล์ฟ มาราธอนในวันอาทิตย์ที่ต้องถูกยกเลิก ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในกรุงปารีส ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ยอดนิยมที่สุดในโลก ปิดให้บริการหลังจากที่พนักงานออกมาแสดงความกังวล ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ยกเลิกงานเจนีวามอเตอร์โชว์ และห้ามจัดงานที่จะทำให้มีคนรวมกันมากกว่า 1,000 คน
ในวันอาทิตย์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกอยู่ที่อย่างน้อย 87,000 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 คน