“ยูน ซอก-ยอล” ตัวแทนฝ่ายขวา คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน. เกาหลีใต้

South Korea's presidential candidate Yoon Suk-yeol of the main opposition People Power Party gestures to supporters during an election campaign rally in Seoul, March 8, 2022. Yoon narrowly won the vote Wednesday.

นายยูน ซอก-ยอล อดีตอัยการสูงสุด ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้จากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันพุธ เตรียมดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้คนต่อไป

นายยูน เอาชนะ นายอี แจ-มยอง อดีตผู้ว่าการจังหวัดคย็องกี ตัวแทนสายเสรีนิยม ในการเลือกตั้งที่หาเสียงแบบสาดโคลนจนถูกกล่าวว่า เป็นการเลือกตั้งที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของเกาหลีใต้

จากผลการลงคะแนนที่นับไปถึง 98 เปอร์เซ็นต์ นายยูนมีคะแนนนำนายอี 260,000 คะแนน และในเวลา 4.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายอีประกาศยอมรับความพ่ายแพ้

นายยูนจะได้เป็นผู้นำของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 10 ของโลก และลำดับที่ 4 ของเอเชีย ในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญความแตกแยกทางสังคมและความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเขาจะดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมต่อจาก ปธน. มูน แจ-อิน ที่ไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สองตามข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญ

ในด้านนโยบายต่างประเทศ นายยูนจะใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวขึ้นต่อเกาหลีเหนือ ที่ทดสอบขีปนาวุธมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกับจีนที่เป็นหุ้นส่วนการค้าที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ นายยูนยังรับปากด้วยว่า จะพัฒนาความสัมพันธ์ของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของเกาหลีใต้ และจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เป็นลำดับต้นๆ

South Korea Election

นโยบายภายในประเทศที่โดดเด่นของนายยูน คือ การยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวของเกาหลีใต้ โดยเขาเจาะกลุ่มฐานเสียงชายหนุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดสตรีนิยม นายยูนระบุว่า เกาหลีใต้ไม่มีการกีดกันผู้หญิงเชิงโครงสร้าง แม้ว่าเกาหลีใต้จะอยู่ในอันดับเกือบท้ายสุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้วในประเด็นความเท่าเทียมทางเพศก็ตาม

นายยูน วัย 61 ปี ได้รับความสนใจจากการที่เขาเป็นผู้นำการสืบสวน อดีตปธน. ปาร์ค กึน-เฮ ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อปีค.ศ. 2017 และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทุจริต โดยเธอเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มอนุรักษ์นิยม และเป็นลูกสาวของอดีตผู้นำเผด็จการทหารปาร์ค จุง-ฮี ที่ถูกลอบสังหาร

นักวิเคราะห์ระบุว่า ชัยชนะของนายยูนอาจช่วยประสานรอยร้าวในกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่มีความเห็นต่างกันมากขึ้นหลังมีการถอดถอนอดีต ปธน. ปาร์ค อย่างไรก็ตาม นายยูนอาจเผชิญข้อจำกัดจากการที่พรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย ครองเสียงข้างมากในสภา และนายยูนจะมีเวลาเพียงสองปีเท่านั้นก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ทำให้เขาอาจดำเนินนโยบายได้ไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม ดาร์ซี เดราท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีของสถาบันเกาหลีศึกษา มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ระบุว่า นายยูนอาจผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายจากฝ่ายบริหารแทน ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับว่าพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีจะมีท่าทีต่อการแพ้เลือกตั้งครั้งนี้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ระบุว่า พรรคที่แพ้เลือกตั้ง ปธน. มักเผชิญกับวิกฤตภายในและจะปฏิรูปตัวเอง แตกพรรคย่อยออกไปเพื่อสนับสนุนนักการเมืองหน้าใหม่ที่ได้รับความนิยม และจากการหาเสียงเลือกตั้งแบบสาดโคลนครั้งนี้ เธอคาดว่าพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีอาจมีความขัดแย้งภายใน และอาจเลือกให้ความสำคัญต่อประเด็นในพรรคมากกว่าการยับยั้งนโยบายของนายยูน

ผลสำรวจความเห็นระบุว่า ผู้ชิงตำแหน่งทั้งสองไม่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนสื่อหลายสำนักระบุว่า ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เป็น “การเลือกตั้งของผู้ที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบ”

แม้เกาหลีใต้กำลังเผชิญปัญหาราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูง อัตราการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากโรคโควิด-19 แต่ผู้ท้าชิงตำแหน่งทั้งสองกลับเลือกโจมตีประเด็นข้อกล่าวหาการทุจริตและประเด็นส่วนตัว

นายยูนถูกกล่าวหาว่า เขานับถือคนทรงเจ้าและเป็นพวกงมงาย โดยระหว่างการโต้วาทีทางโทรทัศน์ เขาต้องปฏิเสธว่าเขาเข้าพบแพทย์พื้นบ้านที่ไม่ได้รับใบอนุญาตที่เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มทวารหนัก ขณะเดียวกัน นายอี จากฝั่งเสรีนิยม ถูกตั้งคำถามว่าเขารับทราบหรือมีส่วนร่วมกับการทุจริตอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีหรือไม่

นายยูนระบุว่า หากเขาได้เป็นผู้นำเกาหลีใต้ เขาจะทำการสอบสวน ปธน. มูน และนายอี โดยเขาเปรียบเทียบคู่แข่งของเขาในพรรครัฐบาลว่าเหมือนอดีตผู้นำเผด็จการอย่างอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และเบนิโต มุสโสลินี

นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมในเกาหลีใต้มักต่อสู้กันอย่างดุเดือดแบบมีผู้แพ้-ผู้ชนะ โดยอดีตผู้นำเกาหลีใต้ทุกคนต่างถูกดำเนินคดี ส่วนมากหลังจากที่คู่แข่งทางการเมืองของพวกเขาขึ้นครองอำนาจต่อ