ปัญหาการถูกกระทบกระเทือนทางสมองที่เกิดกับนักกีฬาเยาวชนอเมริกันอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังนำไปสู่ปัญหายาเสพติดและฆ่าตัวตาย

  • Julie Taboh
    ทรงพจน์ สุภาผล

ปัญหาการถูกกระทบกระเทือนทางสมองที่เกิดกับนักกีฬาเยาวชนอเมริกันอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังนำไปสู่ปัญหายาเสพติดและฆ่าตัวตาย

รายงานในสหรัฐชี้ว่าในแต่ละปีมีนักกีฬาเยาวชนจำนวนมากในอเมริกาที่ถูกกระทบกระเทือนทางศรีษะจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับนักกีฬาระดับอาชีพ

ในแต่ละปีมีนักกีฬาเยาวชนระดับมัธยมในสหรัฐได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะจากการกระแทกมากกว่า 6 หมื่นคน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกีฬาอเมริกันฟุตบอล แต่รายงานชี้ว่าจริงๆแล้วการถูกกระแทกศรีษะสามารถเกิดได้กับกีฬาทุกประเภทที่มีการปะทะ เช่นฟุตบอล เบสบอล บาสเกตบอลหรือมวยปล้ำ

อาการที่เกิดขึ้นจากการถูกกระทบกระเทือนททางสมองนั้นมีหลายอย่าง เช่นอาการสับสนมึนงง เลอะเลือน คิดอะไรไม่ออก ปวดหัว คลื่อนไส้หรือทรงตัวไม่อยู่ แพทย์ชี้ว่านักกีฬาระดับเยาวชนหรือระดับอาชีพควรพีกรักษาตัวสักระยะหากสองถูกกระทบกระเทือน แต่นักกีฬาจำนวนมากไม่ทำเช่นนั้นจนอาจเกิดการกระแทกซ้ำๆกลายเป็นอาการขั้นรุนแรงเรียกว่า Chronic Traumatic Encephapathy หรือ CTE ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะปรากฎอาการ โดยอาจรวมถึงอาการสูญเสียความทรงจำ หงุดหงิดก้าวร้าว สับสน คุ้มดีคุ้มร้ายหรือซึมเศร้าสลดหดหู่ และสุดท้ายอาจนำไปสู่ปัญหาการใช้ยาเสพติดหรือฆ่าตัวตาย

ปัจจุบันสื่อมวลชนในอเมริกามักจะมุ่งเน้นไปที่อาการของโรค CTE ในนักกีฬาอาชีพ แต่ปัญหาการเจ็บป่วยดังกล่าวที่เกิดกับนักกีฬาเยาวชนระดับมัธยมยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร และไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้คุณ Marjorie Albohm ประธานสมาคมผู้ฝึกสอนนักกีฬาสหรัฐหรือ NATA เตือนว่าผู้ปกครองและครูผู้ฝึกสอนควรลดการคาดหวังว่าเด็กจะต้องเป็นนักกีฬาอาชีพชื่อดัง และลดตารางการซ้อมไม่ให้หนักเกินไป ตลอดจนเพิ่มการดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษต่ออาการบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือนที่ศรีษะก่อนที่จะสายเกินไป