'หินคาร์บอนไดออกไซด์' แก้ปัญหาโลกร้อนในไอซ์แลนด์

Your browser doesn’t support HTML5

CO2 Stone

หลายประเทศพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ อีกด้านหนึ่ง คือ นักวิทยาศาสตร์ต้องตามเกมให้ทันเพื่อลดการปล่อยก๊าซทำลายชั้นบรรยากาศโลก โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ตอนนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์จากไอซ์แลนด์คิดค้นวิธีทำให้ก๊าซชนิดนี้กลายเป็นหินที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับสภาพอากาศโลก

10 ปีก่อน Reykjavik Energy กิจการสาธารณูปโภคด้านพลังงานของประเทศไอซ์แลนด์ เริ่มต้นโครงการ CarbFix เพื่อทดสอบว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นผลจากการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพออกมาใช้นั้นจะสามารถถูกกักเก็บคืนไว้ใต้ดินอย่างถาวรได้อีกหรือไม่

เอ็ดด้า อาราด็อนเทอร์​ ผู้จัดการโครงการ ระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์เลียนแบบการกักเก็บก๊าซนี้ตามธรรมชาติ เหมือนการทับถมของฟอสซิลทั่วไป เพียงแต่เร่งเวลาให้กระบวนการเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม

CarbFix เริ่มการทดสอบนี้ที่โรงไฟฟ้า Hellsheidi ที่ตั้งอยู่บนภูเขาไฟดับสนิท ซึ่งยังมีพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ถือเป็นพลังงานไม่มีต้นทุนและยั่งยืนแหล่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ แต่แหล่งพลังงานนี้ก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลเช่นกัน

วิธีของ CarbFix จะกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่จะถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศไปผสมกับน้ำและฉีดกลับไปใต้ดินในชั้นหินบะซอลต์ หรือ หินภูเขาไฟ ที่ความลึกราว 1-2 กิโลเมตร และก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่ถูกฉีดกลับไปนั้นจะกลายเป็นหินในอีก 1-2 ปีต่อจากนั้น และอยู่ในชั้นหินดังกล่าวไปอีกหลายล้านปี

ฟินน์โบกี ออสการ์สัน ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาไอซ์แลนด์ ระบุว่า ปัจจุบันกระบวนการดังกล่าวยังใช้ต้นทุนมหาศาลในการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับสู่ชั้นหินใต้ภูเขาไฟ และหากค้นพบวิธีที่ต้นทุนต่ำกว่า ก็อาจเลือกใช้พื้นทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก หรือจะเป็นอินเดียหรือพื้นมหาสมุทรในอเมริกาใต้ เป็นที่กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากมีลักษณะชั้นหินบะซอลต์ที่คล้ายกัน

ข้อมูลเฉพาะปี 2557 ระบุว่า มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศอย่างน้อย 3 หมื่นล้านตันภายในปีเดียว ขณะที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เพียง 27 ล้านตันเท่านั้นที่ถูกกักเก็บไม่ให้ไปสู่ชั้นบรรยากาศโลก

การทดลองนี้ จึงถือเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ที่ยังรอเทคโนโลยีใหม่ที่ราคาไม่แพงเพื่อเข้ามาแก้ไขในอนาคต.