อินโดนีเซียเร่งเครื่องปราบปรามการพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นภัยคุกคามประชาชนในประเทศที่มีบทลงโทษรุนแรงกับการเดิมพันผิดกฎหมาย
ผู้คนที่เสพติดการพนันในโบกอร์กว่าสิบราย ทางตอนใต้ของกรุงจาการ์ตาเมืองหลวง เข้ารับการบำบัดภาวะติดการพนันที่โรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปีนี้ อ้างอิงจากโนวา ริยานตี ยูซุฟ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชมาร์โซกิ มาห์ดี บอกว่ามีผู้เข้ารับการบำบัดการติดพนัน 19 คนที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ตั้งแต่ระดับขอคำปรึกษา ไปจนถึงการบำบัดภาวะวิตกกังวล หวาดระแวง นอนไม่หลับ และความคิดอยากฆ่าตัวตาย
แต่บรรดาแพทย์เชื่อว่ายังมีผู้คนในอินโดนีเซียอีกมากที่เผชิญปัญหานี้โดยไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากไม่รู้ว่าการติดพนันถือเป็นความผิดปกติ และเตรียมที่จะเก็บข้อมูลว่ามีชาวอินโดนีเซียจำนวนเท่าใดที่มีภาวะดังกล่าว
นอกเหนือจากปัญหาด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องแล้ว ประเด็นด้านสังคมที่เป็นผลมาจากการพนันออนไลน์ ได้กลายเป็นประเด็นที่ตอกย้ำความสำคัญในการปราบปรามการพนันในอินโดนีเซีย
สื่ออินโดนีเซียรายงานว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ตำรวจหญิงอินโดนีเซียจุดไฟเผาสามีตัวเองเนื่องจากการติดพนันของเขา และเมื่อปีก่อนมีชายวัย 48 ปีสังหารและปล้นเงินของแม่ตนเองเพื่อนำไปเล่นการพนัน อีกทั้งยังมีรายงานการเพิ่มขึ้นของการฆ่าตัวตายในปีนี้จากภาวะติดการพนัน และการหย่าร้างที่เพิ่มขึ้น
ระหว่างที่การพนันถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในอินโดนีเซีย ด้วยโทษรุนแรงถึงขั้นจำคุกสูงสุด 6 ปี แต่รัฐบาลอินโดนีเซีย ประเมินว่ามีประชาชนเกี่ยวข้องกับการพนันถึง 3.7 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว และใช้เงินไปกับการเดิมพันผิดกฎหมายเหล่านี้มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์
สถิติอันน่าตกใจดังกล่าวได้ทำให้ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนในการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ นำโดยกระทรวงความมั่นคงอินโดนีเซีย ในการปราบปรามการพนันออนไลน์
ซึ่งภายในเดือนนั้น รัฐบาลกรุงจาการ์ตาได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์จากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกัมพูชาและฟิลิปปินส์ รวมทั้งยังขึ้นบัญชีดำบริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ VPN ใช้เข้าถึงเว็บพนันต่างประเทศและกู้ยืมนอกระบบผ่านมือถือด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความริเริ่มของรัฐบาลอินโดนีเซียอาจไม่เพียงพอ
ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ตำรวจอินโดนีเซีย จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ 467 ราย พร้อมยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวมูลค่ากว่า 4 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้พิพากษาอินโดนีเซียถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงโทษจำคุกที่ผ่อนปรนให้กับคนกลุ่มนี้ เพราะได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ถึง 18 เดือนเท่านั้น
ไนลูล ฮูดา นักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานวิจัย Center of Economic and Law Studies (Celios) บอกกับเอเอฟพีว่า “การสอบสวนต้องขยายผลต่อไปยังขบวนการใหญ่ เพราะเครือข่ายเหล่านี้ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง”
- ที่มา: เอเอฟพี