Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อปีที่แล้ว การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอยู่ในอัตราต่ำสุดในรอบ 28 ปี และภาพรวมของปีนี้ยังคงไม่สดใสนัก เพราะทางการปักกิ่งยังต้องคลี่คลายความขัดแย้งในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
นักธุรกิจหลายรายแสดงความกังวลถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงาน ขณะที่พนักงานบริษัทไม่แน่ใจในอนาคตความมั่นคงทางอาชีพ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น FoxConn, JD.com และ Alibaba ปรับตัวการสิ่งท้าทายเหล่านี้ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในหลายรูปแบบ
และบริษัทลงโฆษณาจ้างงานออนไลน์ Zhaopin.com รายงานว่า เมื่อไตรมาสที่สามปีที่แล้ว จำนวนโฆษณารับสมัครงานในธุรกิจเทคโนโลยีลดลง 51 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนกำลังผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ทางการปักกิ่งประกาศแผนลดภาษีและกระตุ้นการซื้อสินค้าที่ใช้เทคโนโลยี 5 จี รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และสินค้ารถยนต์ โดยเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ยอดขายรถยนต์ในจีนลดลง
นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน เพราะทางการเล็งเห็นว่าปัญหาคนตกงานอาจนำมาซึ่งความปั่นป่วนทางสังคม
ทั้งนี้เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้สิทธิพิเศษ เช่น การคืนภาษี ให้กับกิจการที่ไม่เลิกจ้างงาน และที่รับจ้างนักศึกษาจบใหม่ราว 8 ล้านคนซึ่งกำลังออกจากรั้วมหาวิทยาลัยมาสู่ตลาดแรงงาน
อีกประการหนึ่ง รัฐบาลจีนอุดหนุนค่าแรงจ้างเจ้าหน้าที่ระดับฝึกงาน ที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และคนที่เรียนจบชั้นมัธยมปลายที่ยังไม่มีงานทำ อีกทั้งยังมีการให้เงินสนับสนุนธุรกิจเกิดใหม่ หรือสตาร์ทอัพอีกด้วย
ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เจ้าของกิจการหลายรายย้ายฐานการผลิตเพื่อหาทางประหยัดต้นทุน
หลิว ยี ผู้ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจที่ประเทศจีน ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันบริษัที่มีการจัดการและใช้เทคโนโลยีทันสมัยยังคงมีอนาคตที่ดี แต่อีกหลายบริษัทยังคงต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด เมื่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลง
เขากล่าวว่าช่วงเวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็ว มีการกู้เงินมหาศาลและเพิ่มกำลังการผลิตจนเหลือใช้ และเมื่อถึงเวลาที่ทำธุรกิจยากขึ้น บริษัทเหล่านี้คงเรียนรู้ถึงประโยชน์ของการวางแผนระยะไกล และปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เท่าที่จะทำได้
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Bill Ide)