จีนเตือนสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ว่า ข้อตกลงการค้าใดๆ ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ จะไม่มีผลบังคับใช้หากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าใช้มาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
คำแถลงของทางการจีนในวันอาทิตย์ มีขึ้นหลังจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ วิลเบอร์ รอสส์ (Wilbur Ross) พบเจรจากับรองนายกฯ จีน หลิว เฮ (Liu He) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการค้าของจีน ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อหารือเรื่องประเด็นความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึง เรื่องที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าต่อจีนเป็นมูลค่ามหาศาล
แถลงการณ์ของจีนกล่าวว่า "การเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า" แต่ก็ระบุด้วยว่า "หากสหรัฐฯ ยังประกาศมาตรการกีดกันทางการค้าใดๆ ออกมาก็ตาม ความก้าวหน้าทุกอย่างของการเจรจาครั้งนี้ก็จะไม่มีผลบังคับใช้"
ด้าน รมต.พาณิชย์สหรัฐฯ รอสส์ กล่าวว่า ผู้แทนของสหรัฐฯ และจีน ได้หารือกันเกี่ยวกับสินค้าที่จีนอาจสั่งซื้อเพิ่มจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงลดยอดขาดดุลการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งรวมถึงสินค้าด้านการเกษตรและพลังงาน
ที่ผ่านมา ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้จีนลดยอดขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง จากระดับสูสุดเป็นสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้วที่ 375,200 ล้านดอลลาร์ โดยหนึ่งในมาตรการที่ ปธน.ทรัมป์ นำมาใช้ คือการประกาศขึ้นภาษีสนิค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 150,000 ล้านดอลลาร์ นำไปสู่การตอบโต้ทางการค้าระหว่างสองประเทศ และก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจเกิดสงครามการค้าโลกขึ้นได้