เมื่อวันพุธ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ราห์ม เอมมานูเอล กล่าวว่า บอลลูนสอดแนมเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมอันก้าวร้าวอย่างเป็นระบบของจีน ซึ่งรวมถึง การยิงเลเซอร์ใส่เรือลาดตระเวนของฟิลิปปินส์ การส่งเครื่องบินไอพ่นคุกคามเครื่องบินของสหรัฐฯ และการตั้งสถานีตำรวจระหว่างประเทศกว่า 100 แห่งในหลายประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งในสหรัฐฯ และไอร์แลนด์
ทูตเอมมานูเอล กล่าวว่า หากจีนต้องการได้รับความเคารพในฐานะหนึ่งในสมาชิกของประชาคมโลก จีนก็จำเป็นต้องทำตัวให้เหมาะสมตามหลักการพื้นฐาน รวมถึงการไม่ตั้งสถานีตำรวจในประเทศอื่นและเพิกเฉยต่อกฎหมายของประเทศนั้น ๆ "เพราะนั่นไม่ใช่นโยบายของเพื่อนบ้านที่ดี"
เมื่อวันอังคาร กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นรายงานว่า พบวัตถุลอยฟ้าอย่างน้อย 3 ลำในน่านฟ้าของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา โดยเชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน และได้ส่งจดหมายประท้วงและขอคำอธิบายจากจีนไปแล้ว
ขณะที่นักการเมืองอาวุโสของพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ชี้ว่า กำลังมีการพิจารณาขยายขอบเขตของกฎหมายป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ให้รวมการละเมิดน่านฟ้าญี่ปุ่นโดยบอลลูนต่างชาติเข้าไปด้วย
จีนขู่ตอบโต้มาตรการลงโทษของสหรัฐฯ
จีนประกาศเมื่อวันพุธว่า จะใช้มาตรการตอบโต้ต่อองค์กรในสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงบอลลูนซึ่งเชื่อว่าใช้ในการสอดแนมของจีน ตกนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง เหวินปิน กล่าวถึงเรื่องนี้ในการแถลงประจำวัน แต่มิได้ระบุรายละเอียดหรือเป้าหมายของมาตรการดังกล่าว
โฆษกหวัง กล่าวในวันพุธว่า "จีนขอคัดค้าน (การกระทำของสหรัฐฯ) และจะใช้มาตรการตอบโต้ตามกฎหมาย ต่อองค์กรในสหรัฐฯ ที่บั่นทอนอธิปไตยและความมั่นคงของจีน"
Your browser doesn’t support HTML5
จีนยืนยันว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นของพลเรือนซึ่งใช้ในการตรวจสอบสภาพอากาศ แต่ถูกพัดลอยออกนอกทิศทาง พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ากระทำการเกินกว่าเหตุในการยิงบอลลูนตกด้วยจรวดที่ยิงจากเครื่องบินรบไอพ่น เอฟ-22
อย่างไรก็ตาม จีนมิได้ระบุชัดเจนว่าบอลลูนนั้นเป็นขององค์กรหรือหน่วยงานใด และกล่าวหากลับว่า สหรัฐฯ ได้ส่งบอลลูนสอดแนมเหนือน่านฟ้าของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเช่นกัน
หลังเหตุการณ์ยิงบอลลูนตกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สหรัฐฯ ได้ประกาศลงโทษองค์กรของจีน 6 แห่งที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการด้านอวกาศของจีน
ด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเป็นเอกฉันทน์ให้ประณามจีนในข้อหา "ละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ" และพยายาม "หลอกลวงประชาคมระหว่างประเทศด้วยการกล่าวอ้างผิด ๆ เกี่ยวกับโครงการข่าวกรองของจีนเอง"
- ที่มา: เอพี