Your browser doesn’t support HTML5
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนอนุมัติแผนปฎิรูประบบกฏหมายของจีน หลังการประชุมระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ในสัปดาห์นี้ โดยใจความสำคัญอยู่ที่ประเด็นเรื่องการบังคับใช้รัฐธรรมนูญของจีน และการปราบปรามปัญหาคอรัปชั่น
นับตั้งแต่ประธานาธิบดี Xi Jinping เริ่มขึ้นสู่อำนาจเมื่อ 2 ปีก่อน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เริ่มโครงการปราบปรามการคอรัปชั่นอย่างจริงจัง เป้าหมายเพื่อกำจัดรากเหง้าของปัญหาที่บรรดาผู้นำพรรคเชื่อว่าอาจเป็นตัวการสำคัญที่บ่อนทำลายพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ในอนาคต
ตั้งแต่นั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกว่า 50 คนถูกดำเนินคดี แต่กระบวนการสอบสวนส่วนใหญ่เริ่มขึ้นภายในพรรคคอมมิวนิสต์เอง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายหลายคนให้ความเห็นว่า จริงๆแล้วการสอบสวนคดีคอรัปชั่นควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สอบสวน ไม่ใช่พรรค อย่างไรก็ดี สำนักข่าวซินหว่ารายงานว่า ในการประชุมใหญ่แบบปิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสัปดาห์นี้ที่กรุงปักกิ่ง ผู้นำพรรคได้ตกลงเริ่มกระบวนการที่จะทำให้ฝ่ายตุลาการมีอิสระมากขึ้น
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมแบบครบองค์ครั้งที่ 4 ซึ่งมีสมาชิกคณะกรรมาธิการส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าร่วมกว่า 360 คน รวมทั้งนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ
หนังสือแถลงการณ์การประชุมระบุว่า ผู้นำพรรคได้อนุมัติแผนปฎิรูประบบกฏหมายของจีนให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มความสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ 32 ปีที่แล้ว โดยที่ประชุมได้ขอให้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการบังคับใช้ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และระบุถึงความจำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลซึ่งปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้ ยังไม่สามารถขจัดความกังวลที่มีมายาวนาน เรื่องที่ว่าทางพรรคเองที่เป็นฝ่ายอยู่เหนือกฏหมายและรัฐธรรมนูญ โดยสำนักข่าวซินหว่ารายงานว่าที่ประชุมมุ่งเน้นเรื่องบทบาทผู้นำของพรรคคอมนิวนิสต์ ในการปฏิรูประบบกฏหมายของจีนมากกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ขอให้สภาประชาชนจีนและคณะกรรมาธิการสามัญเพิ่มการควบคุมตรวจสอบกระบวนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ด้วย
ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์จำนวนมากกล่าวหาว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมักจะเพิกเฉยต่อรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน แต่เมื่อประธานาธิบดี Xi Jinping เข้ารับตำแหน่ง ได้กล่าวคำปราศรัยไว้ชัดเจนว่า “จะไม่มีใครหรือองค์กรใดที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ” ซึ่งถือเป็นคำกล่าวที่จับใจประชาชนส่วนใหญ่และองค์กรด้านสังคมต่างๆ ที่เชื่อว่าจีนกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการปฏิรูปทางการเมือง
แต่ตั้งแต่นั้นมา ดูเหมือนพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้มาตรการหลายอย่างในการคุมเข้มผู้ต่อต้านหรือผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ทั้งทางสื่ออินเทอร์เน็ตและในสังคมทั่วไป หลายคนที่ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำจีนเปิดเผยทรัพย์สินต่างถูกคุมขัง นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้จับกุมผู้คนหลายสิบคนที่สนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง
รายงานจาก Bill Ide ผู้สื่อข่าวประจำกรุงปักกิ่ง / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล