ทางการจีนตกลงที่จะออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหญ่เป็นประวัติการณ์ที่มีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน หรือ ราว 411,000 ล้านดอลลาร์ ในปีหน้า ขณะที่ กรุงปักกิ่งพยายามหาทางดำเนินนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งอยู่ในสภาพไม่ค่อยดีอยู่ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างอิงแหล่งข่าวอย่างน้อย 2 แหล่ง
หากกรุงปักกิ่งดำเนินการดังกล่าวจริง นี่จะเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงของการระดมทุน เมื่อเทียบกับตัวเลข 1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ในช่วงเดียวกับที่จีนพยายามหาทางลดแรงกระแทกจากนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ หลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
รายงานข่าวระบุว่า พันธบัตรชุดใหม่นี้มีจุดประสงค์หลักที่จะนำเงินไปกระตุ้นการบริโภคผ่านโครงการอุดหนุนต่าง ๆ การปรับปรุงอุปกรณ์ให้ธุรกิจทั้งหลาย และการจัดเงินส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นเรื่องของนวัตกรรม เป็นต้น
รอยเตอร์ติดต่อไปยังสำนักงานสารสนเทศสภาแห่งรัฐ (State Council Information Office) ซึ่งรับหน้าที่สื่อสารกับสื่อแทนรัฐบาล กระทรวงการคลังและคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ (National Development and Reform Commission) เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการตอบกลับก่อนการจัดพิมพ์รายงานข่าวนี้
แผนการออกพันธบัตรที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของกรุงปักกิ่งที่จะยอมเป็นหนี้ก้อนโตเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด
แหล่งข่าวเผยว่า ส่วนหนึ่งของเงินที่ระดมขึ้นมาได้ในปีหน้าจะถูกนำไปลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตแนวใหม่ ซึ่งรวมความถึง รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หุ่นยนต์ ชิปเซมิคอนดักเตอร์และพลังงานสะอาด
รายงานข่าวกล่าวว่า ตัวเลข 3 ล้านล้านหยวนจากการออกพันธบัตรนี้คิดเป็นสัดส่วน 2.4% ของจีดีพีของจีนในปี 2023
- ที่มา: รอยเตอร์