สี จิ้นผิงเยือนเกาหลีเหนือครั้งประวัติศาสตร์ คาดหารือนิวเคลียร์ ตอกย้ำบทบาทในคาบสมุทรเกาหลี 

People watch a television news screen showing North Korean leader Kim Jong Un shaking hands with Chinese President Xi Jinping, at Seoul railway station in Seoul on June 20, 2019.

Your browser doesn’t support HTML5

China North Korea Visit

สี จิ้นผิง และคิม จองอึน ผู้นำจีนและเกาหลีเหนือ ได้พบปะกันอย่างเป็นทางการรวมทั้งหมดสี่ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ คิม จองอึน เปิดบ้านต้อนรับประธานาธิบดีจีนในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปีของทั้งสองประเทศ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเยือนครั้งนี้ มีนัยยะสำคัญต่อจีนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้สหรัฐฯ และประชาคมโลกรู้ว่า จีนมีบทบาทและอิทธิพลต่อการรักษาความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี

นักวิเคราะห์คาดว่าประเด็นการหารือครั้งนี้ ไม่น่าจะพ้นเรื่องการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

โดยที่ผ่านมา จีนได้สนับสนุนการที่เกาหลีเหนือออกมาประกาศว่าจะยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อมุ่งหน้าพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ

นาย หลู่ เชา ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ แห่งสถาบัน เหลียวหนิง ของจีนกล่าวว่า จีนให้ความสำคัญต่อความมั่นคงในคาบสมุทธเกาหลีอย่างมาก และต้องการทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ หลังจากที่การเจรจารอบสองระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และคิม จอง อึน ที่กรุงฮานอยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ประสบความล้มเหลว

ที่ผ่านมาจีนสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่องค์การสหประชาชาติมีต่อเกาหลีเหนือ แต่นักวิเคราะห์มองว่า สี จิ้นผิง ไม่น่าจะกดดันเกาหลีเหนือมากไปกว่านี้ เพราะไม่ต้องการให้กระทบความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

จีนและเกาหลีเหนือมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาเป็นเวลานาน ครั้งหนึ่งเคยมีการเปรียบเปรยว่าทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นราวกับ “ริมฝีปากและฟัน” ก่อนที่จีนจะเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วง 40 ปีท่่ผ่านมา ในขณะที่เกาหลีเหนือยังยึดมั่นกับระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ จนทำให้เศรษฐกิจถดถอยและประชาชนอดอยาก

ในระยะหลัง เกาหลีเหนือต้องหันมาพึ่งความช่วยเหลือจากจีน ซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรและคู่ค้ารายสำคัญ

แต่นักวิเคราะห์มองว่าการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้สร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาค และทำให้จีนขุ่นเคือง

ในการเยือนครั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า จีนน่าจะต้องการให้เกาหลีเหนือรับประกันว่าจะดำเนินการบางอย่างให้เป็นรูปเป็นร่างเพื่อยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์

ต่ง เจา นักวิเคราะห์จากสถาบันด้านนโยบาย คาร์เนกี้-ซิงหัว กล่าวว่า “การที่จีนแสดงให้เห็นว่า จีนและเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร ในช่วงเวลาที่แม้แต่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้คืบหน้าได้ เป็นการส่งสัญญาณให้สหรัฐฯ เห็นว่า จีนยังเป็นหุ้นส่วนที่มีประโยชน์ และขาดไม่ได้ในการแก้ปัญหาของภูมิภาค”

แปง จองยิน อาจารย์มหาวิทยาลัย Renmin ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่าการพบปะของสี จิ้นผิง และคิม จองอึน น่าจะมีผลกระทบต่อการประชุม G 20 อยู่บ้าง เพราะสี จิ้นผิงมีข้อมูลล่าสุดจากกรุงเปียงยาง ที่จะสามารถนำไปสรุปให้ผู้นำสหรัฐฯ และประเทศอื่นฟังได้ และเกาหลีเหนือก็น่าจะจับตาดูบทบาทของจีนในการประชุม G20 นี้เช่นกัน

ส่วนจีนเอง ก็อาจจะได้รับการตอบแทนจากสหรัฐฯ หลังจากที่ทั้งสองประเทศทำสงครามการค้ากันมานาน แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องคาดเดา เพราะสหรัฐฯ เองก็มีท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นหลังจากเจรจาการค้ารอบล่าสุดกับจีนไม่เป็นผล

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้ว หากการแข่งขันในเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จีนก็ยิ่งจะมุ่งมั่นรักษาอิทธิพลของตนเองในคาบสมุทรเกาหลีเอาไว้ให้มากที่สุด