Your browser doesn’t support HTML5
ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญความท้าทายรอบใหม่ในวันอังคาร เมื่อบริษัทเอเวอร์แกรนด์ (Evergrande) ชะลอแผนขายหุ้นก้อนใหญ่ ขณะที่บริษัทไกซา (Kaisa) ถูกปรับลดความน่าเชื่อถือทางการเงินอีกครั้ง ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
แหล่งข่าวเผยว่า บริษัทเอเวอร์แกรนด์ซึ่งมีหนี้สูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ ถูกบังคับให้ชะลอการขายหุ้น 51% มูลค่ารวม 2,600 ล้านดอลลาร์ให้แก่คู่แข่ง คือ ฮอพสัน เดเวลอปเมนต์ (Hopson Development) หลังจากที่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลส่วนท้องถิ่นของมณฑลกวางตุ้งซึ่งดูแลการปรับโครงสร้างหนี้ของเอเวอร์แกรนด์
การชะลอการขายหุ้นก้อนใหญ่นี้ทำให้เอเวอร์แกรนด์ยังไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ และอาจต้องผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรระหว่างประเทศเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทไกซา กรุ๊ป (Kaisa Group) เผยในวันจันทร์ว่า ได้ชำระหนี้สำหรับงวดวันที่ 16 ตุลาคมแล้ว และมีกำหนดจะโอนเงินสำหรับชำระหนี้งวดต่อไปให้ทันวันที่ 22 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ พันธบัตรของบริษัทไกซามีมูลค่าลดลงเกือบ 25% ในวันอังคาร หลังจากที่สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Moody's ปรับลดความน่าเชื่อถือทางการเงินของบริษัทไกซาลง พร้อมเตือนว่าอาจปรับลดลงอีกเนื่องจากความกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงไม่กี่วันมานี้ ธนาคารกลางของจีนได้ออกมายืนยันว่า ผลกระทบต่อระบบการเงินจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ และวิกฤติตลาดอสังหาฯ จีนนั้น สามารถควบคุมได้ และเศรษฐกิจจีนโดยรวมยังคง "แข็งแรงดี"