นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง กล่าวในวันจันทร์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะเปิดประตูเศรษฐกิจมากขึ้นเพื่อตอบโต้นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของรัฐบาลหลายประเทศ
คำกล่าวของรัฐมนตรีหลี่มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำอาเซียน และประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ที่สิงคโปร์ ในสัปดาห์นี้ โดยจะเน้นหารือที่ประเด็นความตึงเครียดทางการค้าเป็นหลัก
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มิได้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ แต่ส่งรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ มาเป็นตัวแทน ขณะที่คาดว่าผู้นำประเทศอื่น รวมทั้ง ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน, นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนธรา โมดี และนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ ต่างจะเดินทางมาร่วมประชุมที่สิงคโปร์กับบรรดาผู้นำอาเซียนด้วย
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ มีกำหนดจะพบหารือกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในช่วงสิ้นเดือนนี้ ระหว่างการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน่า
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ สนับสนุนนโยบาย "อเมริกามาก่อน" หรือ America First ซึ่งถูกประเทศอื่นวิจารณ์ว่าเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์การค้าเสรี
ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงการค้าบางฉบับ เช่น ข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership (TPP) โดยอ้างว่า สหรัฐฯ เสียเปรียบในข้อตกลงแบบหลายประเทศดังกล่าว และยินดีจะทำข้อตกลงการค้าเป็นรายประเทศมากกว่า
นอกจากนี้ยังกล่าวหาจีนว่าสนับสนุนการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเอาเปรียบทางการค้าต่อสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน จีนและสมาชิกอาเซียนบางประเทศ กำลังสนับสนุนให้เกิดข้อตกลงการค้า Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP) ซึ่งเป็นการเปิดเสรีเศรษฐกิจของจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียน ที่มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก
คาดว่าประเด็นเรื่อง RCEP จะถูกนำขึ้นมาหารือระหว่างการประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ด้วย