Your browser doesn’t support HTML5
การศึกษานี้ถือเป็นการศึกษาเกี่ยวกับโรคระบาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากองค์การอนามัยโลกและจากมหาวิทยาลัย Imperial College London ได้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความสูงและน้ำหนักตัวของคน 130 ล้านคน ตั้งเเต่ปีค.ศ. 1975 หรือราว 42 ปีที่แล้ว เพื่อคำนวณหาดัชนีมวลกายหรือ BMI
การศึกษานี้พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในบรรดาประเทศรายได้ปานกลางในเอเชียตะวันออก ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และลาตินอเมริกา
ศาสตราจารย์ Majid Ezzati แห่งมหาวิทยาลัย Imperial College London หัวหน้าผู้ร่างผลการศึกษาบอกว่า ตกใจมากที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในบางประเทศ ที่เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนมีคนที่เป็นโรคอ้วนจำนวนน้อยมาก และมีคนที่น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ไม่มากนัก ตอนนี้ประเทศเหล่านี้กลายมาเป็นชาติที่มีคนที่เป็นโรคอ้วนและคนที่มีน้ำหนักตัวเกินเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนจัดได้ว่ากำลังใกล้เข้าสู่ภาวะโรคระบาด
ในบรรดาประเทศรายได้สูง อัตราการเกิดโรคอ้วนในเด็กอยู่ในขั้นที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อย เเต่ยังอยู่ในระดับสูงมาก และในกลุ่มของชาติรายได้สูงเหล่านี้ สหรัฐฯ มีอัตราคนเป็นโรคอ้วนสูงที่สุด
ทีมนักวิจัยกล่าวว่า ปัญหาการเเพร่ระบาดของโรคอ้วน เป็นผลมาจากการทำการตลาดด้านอาหาร เเละการจัดทำนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพทั่วโลก
ศาสตราจารย์ Majid Ezzati แห่งมหาวิทยาลัย Imperial College London กล่าวว่า เเทนที่อาหารจะเป็นสิ่งที่เเต่ละคนเลือกได้ เเต่อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการกลับมีราคาที่สูงเกินไป จนคนรายได้น้อยไม่สามารถบริโภคได้ ในขณะที่มีทำการตลาดเเนวรุกเพื่อขายอาหารที่ด้อยคุณค่า ปัจจัยเหล่านี้รวมเข้ากับปัญหาการขาดเเคลนสนามเด็กเล่นที่ปลอดภัย ก็จะทำให้เด็กไม่ได้ออกกำลังกายเเละกลายเป็นเด็กอ้วนได้
โรคอ้วนในเด็กเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคอื่นๆ หลายโรคตามมาในอนาคต รวมทั้งโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองเเตกและอุดตัน ตลอดจน มะเร็งบางชนิด ศาสตราจารย์ Ezzati กล่าวว่า โรคอ้วนยังมีผลกระทบรุนแรงต่อเด็กอีกด้วย โดยเขากล่าวว่าโรคอ้วนสร้างความรู้สึกด้อยคุณค่าเเก่ตัวเด็ก มีผลทางจิตใจเเละสังคม เเละมีหลักฐานที่ชี้ว่าโรคอ้วนมีผลกระทบต่อผลการเรียนของเด็กอีกด้วย
การศึกษานี้ยังได้ศึกษาเด็กที่มีปัญหาน้ำหนักตัวต่ำจำนวนหนึ่ง ซึ่งยังเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญอย่างหนึ่งในกลุ่มประเทศยากจนที่สุดของโลก ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา อินเดียมีปัญหาคนอายุน้อยที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ในระดับอ่อนๆ จนถึงขั้นรุนแรงสูงที่สุด
ศาสตราจารย์ Ezzati แห่งมหาวิทยาลัย Imperial College London กล่าวว่าโลกประสบกับปัญหาทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน คือ ปัญหาโรคอ้วนกับปัญหาทุพโภชนาการ จึงควรเเก้ปัญหาเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันแบบองค์รวม
ทีมนักวิจัยนี้ได้เรียกร้องให้บรรดาผู้ออกนโยบายระดับประเทศ ปรับปรุงการผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพให้เเข็งเเรงทั้งในครัวเรือนและในโรงเรียน โดยเฉพาะในครอบครัวและชุมชนที่มีรายได้น้อย
นอกจากนี้ ยังแนะนำว่าควรปรับภาษีอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพให้สูงขึ้นด้วย!!
(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)