Your browser doesn’t support HTML5
ไม่นานนี้ หน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เปิดเผยสถิติที่ระบุว่านักศึกษาอเมริกันจำนวนมากเปลี่ยนวิชาเอกหลังจากเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย
การศึกษาชิ้นนี้เก็บข้อมูลนักศึกษา 25,000 คน ที่เริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อ 7 ปีก่อน สถิติระบุว่า เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี หลังการเริ่มเก็บข้อมูล ประมาณหนึ่งในสามของนักเรียนปริญญาตรีเปลี่ยนวิชาเอกหรือเมเจอร์ และหนึ่งในสิบเปลี่ยนเมเจอร์มากกว่าหนึ่งครั้ง
นอกจากนั้นนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์ หรือ STEM (Science, Technology, Engineering and Math) มีโอกาสเปลี่ยนสายการเรียนมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เรียนสาย STEM มากกว่าร้อยละ 6
การศึกษาก่อนหน้านี้ชี้ว่า หนึ่งในสามของผู้ที่เรียนสาย STEM ซึ่งเปลี่ยนสายการเรียนเปลี่ยนไปเรียนสาขาที่ไม่ใช่สายวิทยาศาสตร์โดยสิ้นเชิง
และที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเปลี่ยนสาขาการเรียน คือนักศึกษาที่เลือกเมเจอร์คณิตศาสตร์ในตอนแรก กล่าวคือร้อยละ 52 ของกลุ่มนี้เปลี่ยนสายการเรียน
นักวิจัยที่ทำการศึกษาในโครงการของกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ระบุว่าสาเหตุของการเปลี่ยนเมเจอร์คืออะไร
แต่ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมผู้สอนวิชาสายวิทยาศาสตร์ เดวิด เอฟวานส์ (David Evans) กล่าวว่า สาเหตุน่าจะมาจากความไม่คุ้นเคยกับการเรียนสายวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย เทียบกับการเรียนในชั้นมัธยมปลาย
เขากล่าวว่า ห้องเรียนสาย STEM ในมหาวิทยาลัยมีจำนวนผู้เรียนมากกว่าในระดับมัธยมศึกษา ดังนั้นนักศึกษาบางคนอาจประสบปัญหาในการรับคำปรึกษาว่า สิ่งที่เรียนอยู่เกี่ยวโยงกับตนเองอย่างไร เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
นอกจากนั้น เดวิด เอฟวานส์ ระบุว่า ผู้สอนสายวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย เพิ่มความยากของเนื้อหาเพื่อคัดว่านักศึกษาคนใดที่สนใจกับวิชามากพอที่จะค้นหาความรู้อย่างไม่ย่อท้อ และมีความจริงจังที่จะยึดอาชีพสายนี้ในอนาคตด้วยความชอบอย่างแท้จริง
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของผู้สื่อข่าว Pete Musto และ Alice Bryan)