Your browser doesn’t support HTML5
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ยอดขายเครื่องดื่มแชมเปญในปีนี้น่าจะพุ่งถึงระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี อันเป็นผลมาจากการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และออสเตรเลียที่ขยายตัวอย่างมาก
รายงานข่าว เปิดเผยด้วยว่า SGV ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้เกษตรกรผู้ปลูกองุ่นแชมเปญที่เปิดเผย การประเมินทิศทางยอดขายปีนี้ออกมาในวันพฤหัสบดี ระบุด้วยว่า การที่อังกฤษถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หรือ เบร็กซิต (Brexit) และปัญหาข้อพิพาทกับรัสเซียที่บังคับให้ผู้ผลิตในฝรั่งเศสระบุที่ฉลากหลังขวดว่า ผลิตภัณฑ์นั้นเป็น Sparkling Wine หรือ ไวน์ที่มีฟอง จนทำให้มีผู้เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรตลาดรัสเซีย ล้วนไม่ได้มีผลต่อปริมาณการขายแชมเปญเลย
ตัวเลขคาดการณ์ยอดขายดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี ในปีนี้ หลังไร่องุ่นต่างๆ ถูกภาวะน้ำค้างแข็งและการระบาดของเชื้อราทำลายพืชผลไปมากมาย ขณะที่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มเลื่องชื่อนี้ก็ต้องรับผลกระทบจากมาตรการปิดบาร์และร้านอาหารในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ด้วย
แต่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมของรัฐบาลต่างๆ และการกลับมาเปิดตลาดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลายในช่วงที่ผ่านมาน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นถึงระดับ 305 ล้านขวด เทียบกับยอดขาย 297 ล้านขวดในปี ค.ศ. 2019 หรือก่อนเริ่มมีการระบาดของโคโรนาไวรัส ตามการประเมินของ SGV
ทั้งนี้ ข้อมูลการส่งออกแชมเปญตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม แสดงให้เห็นอัตราการขยายตัวถึง 11.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปี ค.ศ. 2019 แม้ว่ายอดขายในฝรั่งเศสเองจะหดตัว 2.4 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม