Your browser doesn’t support HTML5
ยานสำรวจ Rosetta กำลังมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ดาวหางเป้าหมายแล้ว โครงการสำรวจดาวหางในอวกาศนี้จะช่วยค้นพบข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดของน้ำบนโลกมนุษย์
เมื่อสิบปีที่แล้ว องค์การสำรวจอวกาศแห่งยุโรป (European Space Agency) ได้ส่งยานสำรวจอวกาศ Rosetta ไร้คนขับออกไปนอกโลกเพื่อทำการศึกษาที่ละเอียดมากที่สุดเกี่ยวกับดาวหางดวงหนึ่งที่อยู่ไกลโพ้นในระบบสุริยจักรวาล
คุณ Ralph Cordey ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจแห่ง Airbus Defense and Space ซึ่งเป็นผู้สร้าง
ยานสำรวจอวกาศ Rosetta กล่าวว่าในขณะที่ก้อนอุกกาบาตเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ มีลักษณะเกือบเหมือนกับดาวเคราะห์ ดาวหางกลับมีน้ำเเข็งเป็นองค์ประกอบหลัก
คุณ Ralph Cordey กล่าวว่าเรารู้กันดีว่าโลกเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก แต่เราไม่รู้ว่าน้ำบนโลกมีต้นกำเนิดจากอะไรเเละเป็นไปได้ว่าน้ำบนโลกเกี่ยวข้องกับดาวหาง
ยานสำรวจอวกาศ Rosetta ใช้เวลานานถึงสิบปีในการเดินทางรอบโลก 3 รอบและเดินทางรอบดาวอังคารหนึ่งรอบและเพิ่มความเร็วขึ้นไปจนเดินทางไปถึงดาวหางที่มีชื่อว่า 67P/ Churyumov-Gerasimenko ที่อยู่ห่างจากโลก 400,00 กิโลเมตร
คุณ Simon Barraclough วิศวกรของ Airbus กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าตลอดช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา ระบบคอมพิวเตอร์บนยานสำรวจอวกาศหลายระบบถูกตั้งให้พักการทำงานเพื่อประหยัดพลังงาน
เขากล่าวว่าเมื่อยานสำรวจอวกาศ Rosetta เดินทางเข้าไปใกล้กับดวงอาทิตย์ ระบบควบคุมการทำงานบนยานสำรวจอวกาศจะเริ่มกลับไปทำงานตามปกติ เเละในทางกลับกัน เมื่อยานสำรวจอวกาศเดินทางออกห่างจากดวงอาทิตย์ ระบบต่างๆ ก็จะหยุดพักการทำงานเช่นเดิม
สัญญาณที่เเจ้งว่าระบบคอมพิวเตอร์บนยานสำรวจอวกาศ Rosetta เริ่มกลับไปทำงานอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาสร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมากเเก่ทีมงานของโครงการสำรวจดาวหางที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Darmstadt ประเทศเยอรมันนี
ยานสำรวจอวกาศ Rosetta จะเริ่มโคจรรอบดาวหางเป้าหมายในระยะห่าง 10 กิโลเมตร จะทำการวัดขนาดต่างๆ ของดาวหางและทำการร่างแผนที่ผิวหน้าของดาวหาง
ในเดือนพฤศจิกายน ยานสำรวจอวกาศไร้คนขับนี้มีกำหนดจะปล่อยกระสวยอวกาศลูกชื่อ Philae ที่มีขนาดเล็กกว่าตัวกระสวยแม่ให้ลงจอดบนดาวหางเป้าหมาย
คุณ Cordey ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจแห่ง Airbus Defense and Space ผู้สร้างกระสวยอวกาศลำนี้กล่าวว่าทั้งยานสำรวจอวกาศแม่ Rosetta และ กระสวยอวกาศลูก Philae จะวัดปริมาณแก๊สและฝุ่นบนดาวหางดวงนี้เเละส่งภาพถ่ายผิวหน้าของดาวหางเเล้วส่งกลับมาให้ทีมงานได้ดู
คุณ Cordey กล่าวว่า กระสวยอวกาศลูก Philae มีระบบเรด้าร์ในตัวที่จะสื่อสารกับยานสำรวจอวกาศเเม่ที่โคจรรอบๆ ดาวหางและจะใช้ระบบเรดาร์ทำการพิสูจน์ดูนิวเคลียของดาวหางเขากล่าวว่ากระสวยอวกาศลูก Philae ไม่เเค่สำรวจผิวหน้าของดาวหางเเละสภาพเเวดล้อมต่างๆ รอบดาวหางเท่านั้นเเต่จะทำการสำรวจสภาพเเวดล้อมภายใต้พื้นผิวของดาวหางด้วย
กระสวยอวกาศลูก Philae จะทำการสำรวจอยู่บนดาวหางนานหนึ่งปี ส่วนยานสำรวจอวกาศ Rosetta จะเดินหน้าตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของดาวหางขณะเดินทางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และจะเริ่มอุ่นขึ้น ในขณะที่กระสวยอวกาศลูก Philae จะวิเคราะห์ตัวอย่างจากผิวหน้าและจากด้านใต้ของดาวหาง