Your browser doesn’t support HTML5
อดีตครูชาวอินโดนีเซียรายหนึ่ง ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาจับธุรกิจแฟชั่นสำหรับหนึ่งในสัตวเลี้ยงแสนรักของคนทั่วโลก และนำเสนอแนวคิดคอสเพลย์อันเป็นเอกลักษณ์จนกิจการรุ่งเรืองน่าจับตามองอย่างยิ่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เฟรดิ ลูจินา พริอาดิ วัย 39 ปี ตัดสินใจยุติบทบาทแม่พิมพ์ของชาติ และหันมาลองทำธุรกิจหลายอย่าง จนกระทั่งได้มาลองทำงานด้านแฟชั่นน้องแมว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลูกพี่ลูกน้องหลายคนของเขาที่รักแมวเป็นจิตใจ
เฟรดิ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมา ตนได้ออกแบบชุดคอสเพลย์หลากหลายแนวให้ถูกใจเจ้าของที่มาพร้อมกับความต้องการที่ต่างกันไป โดยได้นำเสนอชุดแนวใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นตากันในตลาด เช่น ชุดซุปเปอร์ฮีโร่ เทพเจ้าสายฟ้า ธอร์ และซุปเปอร์แมน รวมทั้งชุดคอสเพลย์ที่คนนิยมสวมใส่กัน อย่าง ชุดนางพยาบาล หรือแม้กระทั่งชุดเสื้อผ้าสำหรับสตรีชาวมุสลิม เป็นต้น
Your browser doesn’t support HTML5
เฟรดิ ยอมรับว่า ตอนที่ลูกพี่ลูกน้องมาแนะนำให้ลองทำชุดคอสเพลย์น้องแมวขายนั้น ตนคิดว่า เป็นแนวคิดที่แปลกอยู่ แต่เมื่อได้ลงมือทำเต็มตัว กลับพบว่า เป็นธุรกิจที่สนุกที่ได้เห็นน้องแมวในชุดแฟนซีแปลกตาทั้งหลาย
อดีตครูหนุ่มผู้นี้ เริ่มกิจการคอสเพลย์น้องแมวมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ในเมืองบอกอร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงจาการ์ตา โดยเขาเป็นคนตัดเย็บทุกชุดเอง และในปัจจุบัน สามารถหารายได้เดือนละ 3 ล้านรูเปีย หรือประมาณ 210 ดอลลาร์ ถ้าสามารถตัดเย็บได้วันละ 4 ชุดเป็นอย่างต่ำ
สนนราคาค่าชุดที่ เฟรดิ คิดกับลูกค้านั้นอยู่มีตั้งแต่ 6 ดอลลาร์ ไปจนถึง 10 ดอลลาร์
รอยเตอร์ส ได้พบกับ ริสมา ซานดร้า อิราวาน ลูกค้ารายหนึ่งของ เฟรดิ ซึ่งบอกว่า เธอได้ซื้อชุดให้ “โซกัน” แมวของเธอไปแล้วอย่างน้อย 30 ชุด และยังเพิ่งสั่งซื้อชุดใหม่ๆ สำหรับงานเทศกาลพิเศษ เช่น ตรุษอีด หรือ ฮารีรายอ และเทศกาลคริสต์มาส เรียบร้อยแล้ว
ริสมา กล่าวว่า การได้หาซื้อชุดน่ารักๆ ให้น้องแมวของเธอ ช่วยคลายเครียดได้มาก และเธอยังได้สร้างบัญชี TikTok ให้ “โซกัน” อวดโฉมชุดทั้งหลาย จนมีผู้ติดตามกว่า 50,000 คนแล้วด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่มีแต่ผู้ที่ชื่นชมและชื่นชอบผลงานของ เฟรดิ เท่านั้น แต่มีผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์เขามากมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลาย โดยกล่าวว่า การจับน้องแมวมาแต่งตัวเหมือนมนุษย์นั้น เป็นเรื่องโหดร้ายทารุณ
สำหรับประเด็นนี้ กลุ่มพิทักษ์สัตว์บางกลุ่มพยายามสื่อสารคำแนะนำให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายให้หมั่นสังเกตสัญญาณใดๆ ก็ตามจากน้องแมวหรือน้องหมา ที่ถูกจับแต่งตัวตามใจเจ้าของ ว่ามีอาการเครียดหรือไม่สบาย เพราะต้องสวมใส่เสื้อผ้าทั้งหลายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดและการทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงขึ้น