ผู้หญิงกัมพูชากำลังมุ่งหางานทำในมาเลเซียมากขึ้น ขณะที่มีการคุ้มครองให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหงน้อย

  • Brian Calvert
    ประภัสสร อักขราสา

ผู้หญิงกัมพูชากำลังมุ่งหางานทำในมาเลเซียมากขึ้น ขณะที่มีการคุ้มครองให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหงน้อย

ขณะนี้ ผู้หญิงกัมพูชาไปทำงานเป็นแรงงานรับใช้ตามบ้านในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การที่รีบเร่งไปหางานทำ หลายคนจึงไม่มีการคุ้มครองป้องกันจากการถูกข่มเหงรังแก และได้ค่าจ้างต่ำ กัมพูชาก็เป็นเช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ ที่กำลังพยายามหาทางคุ้มครองแรงงานที่ออกไปทำงานนอกประเทศ

ผู้หญิงในชนบทของกัมพูชาจำนวนมากกำลังหาช่องทางไปทำงานรับใช้ตามบ้านในมาเลเซีย แต่หลายคนที่ไปพบว่า ยิ่งมีปัญหามากเกินคาด

การเร่งรีบไปหางานทำ ผู้หญิงเหล่านั้นจึงไม่มีการคุ้มครองป้องกัน และได้ค่าจ้างแรงงานต่ำ หลายคนถูกกดขี่ข่มเหง ถูกทำร้ายร่างกาย และถูกทำร้ายทางเพศ

กัมพูชาก็เป็นเช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ ที่จำเป็นต้องมีงานเพิ่มสำหรับประชาชนที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และต้องหาทางคุ้มครองป้องกันแรงงานของตนที่ออกไปทำงานนอกประเทศ

ส่วนในมาเลเซีย ซึ่งกำลังมีคนระดับวิชาชีพรายได้ดีเพิ่มขึ้น กำลังต้องการคนทำงานรับใช้ตามบ้านมากขึ้น จำนวนคนกัมพูชาที่ถูกจัดส่งไปยังมาเลเซียในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า เป็นราว 20,000 คน จำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่อินโดนีเซียห้ามไม่ให้คนงานอินโดนีเซียไปทำงานในมาเลเซีย เพราะมีการกดขี่ข่มเหงทำร้ายดังกล่าว

ผู้หญิงที่สมัครงานกับผู้ที่ออกไปหาแรงงานตามท้องถิ่นต่างๆ มักถูกล่อด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะได้ค่าจ้างดี แต่การคุ้มครองให้ความปลอดภัยมีน้อยมาก และติดต่อกลับบ้านได้ยาก

ทางการกัมพูชากำลังหาทางคุ้มครองและช่วยเหลือคนงานกัมพูชาที่ไปทำงานนอกประเทศ

เอ สาโร ผู้ว่าการเขตโรเวียง จังหวัดพระวิหารทางภาคเหนือของกัมพูชา กล่าวว่า ตอนนี้ รัฐบาลยังไม่มีระบบคุ้มครองป้องกันคนงานกัมพูชาที่ออกไปทำงานต่างประเทศ แต่รัฐบาลกัมพูชากำลังร่างกฏหมายใหม่ที่จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้หญิงกัมพูชาให้พันจากการถูกชักนำไปทำงานอย่างไม่ซื่อตรง แลจัดตั้งกองทุนสำหรับช่วยเหลือผู้ที่ไปทำงานและตกระกำลำบากในมาเลเซียและที่อื่น