นักธุรกิจอินเดียและปากีสถานเรียกร้องรัฐบาลกำจัดกำแพงกีดกันการค้า และข่าวธุรกิจอื่นๆ

Your browser doesn’t support HTML5

business News

ผู้ตรวจการพิเศษของสหรัฐในเรื่องการฟื้นฟูบูรณะแอฟกานิสถาน กล่าวในคำปราศัยที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลสหรัฐได้ใช้จ่ายเงินเพื่อการนี้ไปแล้วมากกว่า 104 พันล้านดอลล่าร์ มากกว่าที่สหรัฐเคยให้ความช่วยเหลือประเทศอื่นใดในประวัติศาสตร์

แต่ผลปรากฎว่าเป็นความล้มเหลว เพราะคอร์รัปชั่นและการค้ายาเสพติดที่กำลังรุ่งเรืองในแอฟกานิสถาน ทำให้รัฐบาลแอฟกานิสถานไม่สามารถหาเงินมาดำเนินการและบำรุงรักษาโครงการต่างๆ ที่สหรัฐเริ่มต้นให้ไว้ต่อไปได้

ขณะนี้ สหรัฐและประเทศอื่นๆหลายประเทศยังร่วมกันบริจาคเงินให้มากกว่า 60% ของงบประมาณของแอฟกานิสถานทั้งประเทศ

และจากกรุง New Delhi นักธุรกิจชาวอินเดียและปากีสถาน เร่งเร้าให้รัฐบาลของตนกำจัดกำแพงกีดกั้นการค้าระหว่างกัน และเปิดโอกาสให้การค้าระหว่างประเทศทั้งสองเจริญก้าวหน้าได้

นักธุรกิจปากีสถาน ซึ่งนำสินค้าไปแสดงในนิทรรศการผลิตภัณฑ์แฟชั่นและ lifestyle ในกรุง New Delhi ในสัปดาห์ที่แล้ว อยากจะเห็นอินเดียและปากีสถานปรับความสัมพันธ์ทางการค้าคืนสู่สภาพปกติ

แต่แม้ทั้งสองประเทศจะตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ขึ้นไปถึง 6 พันล้านดอลล่าร์ในปีหน้า ในปี ค.ศ. 2013 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งสองอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลล่าร์เท่านั้น

ในอีกด้านหนึ่ง นักอนุรักษ์กำลังยกย่องข้อตกลงเมื่อวันอาทิตย์ที่จะนำปลาฉลามและปลากระเบนราหู (Manta Ray) ไปอยู่ในความคุ้มครองของ CITES หรือ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

เลขาธิการของ CITES นาย John Scanlon กล่าวว่า ความต้องการบริโภคหูฉลามในเอเชีย และการรับประทานเนื้อฉลามของคนยุโรปทำให้ปริมาณปลาฉลามลดลง ในขณะที่คนจีนในภาคใต้ของประเทศนิยมเหงือกปลากระเบนราหู เพราะเชื่อว่าบำรุงสุขภาพ แต่จริงๆ แล้ว เหงือกปลากระเบนชนิดนี้เต็มไปด้วยสารหนู สาร Cadmium และสารพิษอื่นๆ

ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ห้ามการค้าปลาฉลามและปรากระเบนราหู เพียงแต่ควบคุมการค้าปลาทั้งสองชนิด เพื่อรับประกันว่ามีการจับปลาทั้งสองชนิดอย่างถูกต้องตามกฎหมายและปกป้องปริมาณปลาให้ยั่งยืนด้วย

และในขณะที่อัตราการเกิดในชาติตะวันตกกำลังลดลงอยู่เรื่อยๆ อัตราการเกิดในประเทศกำลังพัฒนากลับเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็กรายใหญ่ เช่น Proctor & Gamble และ Kimberly Clark กำลังรณรงค์กันอย่างหนักในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อสร้าง brand name และความจงรักภักดีในหมู่ผู้บริโภค

ผลการสำรวจโดย Euromonitor International แสดงให้เห็นว่า ประเทศ Saudi Arabia เป็นลูกค้าผ้าอ้อมเด็กรายใหญ่ที่สุด ส่วนสหรัฐลดลงมาอยู่ในอันดับที่ 6

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตผ้าอ้อมอาจจะยังมีโอกาสหาลูกค้าใหม่ๆ ในอเมริกาได้ นสพ. Wall Street Journal รายงานว่า ในแต่ละปีมีคนอเมริกันมากกว่าสามล้านคนที่ย่างเข้าสู่วัยทอง ซี่งหมายความว่าในอนาคตไม่ไกลนี้ น่าจะมีความต้องการผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นในอเมริกา

สุดท้ายในข่าวธุรกิจ Netflix ผู้ให้บริการ video-streaming จะขยายบริการเพิ่มในยุโรป โดยระบุชื่อประเทศที่จะขยายการให้บริการไว้ คือ เยอรมนี ออสเตรีย สวิสเซอแลนด์ เบลเยี่ยม และฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่าต้องการควบคุมบริการที่ว่านี้ ในขณะที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฝรั่งเศสอยากให้ Netflix ลงทุนสร้างรายการในประเทศด้วย

เวลานี้ Netflix มีสมาชิกราวๆ 50 ล้านคนทั่วโลก