ยุโรปมั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว และปักเป้าทองเหลืองจะเรียกนักท่องเที่ยวได้หรือไม่

ผวก. ธนาคารกลางและรมต. กระทรวงการคลังของเยอรมนี กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้วางนโยบายของสหรัฐจะสามารถทำความตกลงเรื่องงบประมาณกันได้ในที่สุด และให้ความเห็นว่า สภาพเศรษฐกิจของยุโรปฟื้นตัวได้มั่นคงพอที่จะพูดได้ว่า ความเสี่ยงในเวลานี้จะมาจากบรรดาเศรษฐกิจเกิดใหม่ (emerging economies)

นาย Wolfgang Schaeuble รมต. คลังของเยอรมนี กล่าวหลังการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกที่กรุงวอชิงตันว่า ยุโรปไม่ทำให้โลกต้องวิตกกังวลอีกต่อไปแล้ว ในขณะที่ความเสี่ยงเปลี่ยนจากยุโรปไปอยู่ที่เศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่ซึ่งอัตราการโตทางเศรษฐกิจได้ชลอตัวลง

ในสัปดาห์ที่แล้ว IMF ลดอัตราการโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้และปีหน้าลง โดยคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาจะโตในอัตรา 4.5% ในปีนี้ ลดลงจาก 5% ที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน อัตราการโตสำหรับการส่งออกของจีนในเดือนกันยายนลดลงไปยู่ที่ .3% ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ประหลาดใจ ตัวเลขนี้มาจากสำนักงานศุกลากรของจีน และขัดกับความคาดคะเนของตลาดที่คาดไว้ว่า การส่งออกของจีนจะเพิ่มขึ้น 6%

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ที่การส่งออกของจีนอ่อนตัวลง ชี้ให้เห็นว่าความต้องการของโลกชลอตัวลง โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจเกิดใหม่ ตัวเลขแสดงให้เห็นด้วยว่า การส่งออกของจีนไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดสำหรับสินค้าจีนที่โตเร็วที่สุด ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ในเดือนกันยายน ในขณะที่นักวิเคราะห์ของธนาคาร ANZ กล่าวโทษว่าเป็นเพราะค่าเงินหยวนแข็งตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม การสำรวจความเห็นในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ 21 คน โดยสำนักข่าว Reuters ระบุว่า อัตราการโตทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่สามจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.8%

ในอีกด้านหนึ่ง นากยรัฐมนตรี Li Keqiang ประกาศในวันศุกร์ที่แล้วว่า จีนจะซื้อข้าวและยางจากประเทศไทย โดยจะซื้อข้าวปีละ 1 ล้านตัน และยางสองแสนตัน ติดต่อกันเป็นเวลาห้าปี

ในคำปราศัยต่อที่ประชุมรัฐสภาไทย นายกรมต.ของจีนกล่าวว่าจีนกับไทยจะเพิ่มการค้าระหว่างกันให้มีมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลล่าร์ภายในสิ้นปี ค.ศ. 2015 และจีนจะซื้อสินค้าการเกษตรจากไทยให้มากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของ AP กล่าวว่า เว็บไซต์ของรัฐบาลไทย กล่าวว่า นายกรมต. จีนจะซื้อข้าว 1 ล้านตันและยางสองแสนตันจากประเทศไทยโดยไม่กำหนดระยะเวลา และว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล

และที่ประเทศจีนเอง ในขณะที่ประธานาธิบดี Xi Jinping กำลังรณรงค์ให้รัฐบาลรัดเข็มขัด ปลาปักเป้าเกล็ดทองเหลือง หนัก 2,300 ตัน 295 ฟุต ราคาสร้าง 11.4 ล้านดอลล่าร์ ลอยตระหง่าน เรียกร้องนักท่องเที่ยวอยู่ที่เมือง Yangzhong ในมณฑล Jiangsu ในภาคตะวันออกของจีน

เมือง Yangzhong กำลังมีงานนิทรรศการการจัดสวนเป็นเวลาหนึ่งเดือน

มีเสียงตำหนิจากผู้คนโดยทั่วไปว่า ทำไมจึงเอาเงิน 11.4 ล้านดอลล่าร์ไปโยนทิ้งแม่น้ำ สื่อจีนอุตสาหะบางรายค้นพบว่า ค่าใช้จ่ายในการสร้างปลาปักเป้าตัวนี้ เฉพาะค่าทองเหลืองและเหล็กของปลาตกราวๆ 1.7 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น จึงทำให้เกิดคำถามออนไลน์เป็นจำนวนมากว่าเงินนอกนั้นไปตกอยู่ในกระเป๋าผู้ใด

อย่างไรก็ตามการก่อสร้างรูปปั้น หรือสิ่งของใหญ่โตมโหฬารตามเมืองต่างๆของจีน ไม่ใช่เรื่องแปลก มณฑล Guizhou คุยอวดได้ว่า มีกาน้ำชาใหญ่ที่สุดในโลก และเมือง Zhengzhou ในมณฑล Henan มีรูปปั้นหมู 2 ตัวยืนกอดกันต้อนรับผู้ที่เยือน
สำหรับปักเป้าเกล็ดทองเหลืองนี้ เจ้าหน้าที่เมือง Yangzhong บอกว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญ เพราะปลาปักเป้า ซึ่งมีพิษถึงชีวิตได้นี้ เป็นอาหารจานพิเศษของเมือง สมควรแก่การส่งเสริมประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้ ยังเป็นสัญลักษณ์ตักเตือนใจผู้คนให้ช่วยกันปกปักรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ปักเป้าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไปในแม่น้ำแยงซีได้ด้วย