Your browser doesn’t support HTML5
กลุ่มชื่อ TheCityUK ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนงานด้านการเงินและบริการทางวิชาชีพเสนอต่อรัฐบาลอังกฤษว่า กรุงลอนดอนจะต้องปรับอัตราภาษีและทำให้ง่ายขึ้นที่จะจ้างบุคลากรคนทำงานจากต่างประเทศ หากเมืองหลวงของอังกฤษ หรือนครแห่งนาฬิกา Big Ben แห่งนี้ ต้องการจะก้าวขึ้นแซงหน้านครนิวยอร์ก หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า The Big Apple ในฐานะศูนย์กลางด้านการเงินชั้นนำของโลกภายในห้าปี
โดยทางกลุ่ม TheCityUK ชี้ว่า กรุงลอนดอนล้าหลังนครนิวยอร์กทุกปีในด้านการเป็นศูนย์กลางด้านการเงินชั้นนำของโลก ขณะที่เมืองใหญ่อื่น ๆ ในต่างประเทศ กำลังก้าวเข้ามาแทนที่
และเมื่อปี 2018 นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ก้าวขึ้นแซงกรุงลอนดอนในฐานะศูนย์กลางด้านการเงินของโลกจากผลการสำรวจประจำปีตามรายงานของรอยเตอร์ ดังนั้นทางกลุ่ม TheCityUK จึงเสนอต่อรัฐบาลว่า อังกฤษจำเป็นต้องมุ่งเน้นเรื่องความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ แก้ไขกฎเกณฑ์เรื่องภาษี การออกวีซ่าและอื่น ๆ ด้วย
ขณะนี้ธนาคารในกรุงลอนดอนต้องเสียภาษีในอัตราสูงถึง 46.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราภาษีในนครนิวยอร์กถึง 13% และรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกระทรวงบริการด้านการเงินของอังกฤษก็ยอมรับว่า นอกจากเรื่องอัตราภาษีแล้ว หัวใจสำคัญสำหรับการทำงานของบริษัทการเงินต่าง ๆ คือความง่ายที่จะจ้างบุคลากรผู้มีความสามารถจากทั่วโลกด้วย
(ที่มา: Reuters)