ธุรกิจ: 'แอมะซอน - วอร์เรน บัฟเฟต - เจพีมอร์แกน เชส' ประกาศร่วมตั้งบริษัทประกันสุขภาพ

Combination of photos from left shows Warren Buffett and Jeff Bezos, CEO of Amazon.com.

ประธานคณะกรรมการ FCC สนับสนุนให้ภาคธุรกิจลงทุนและดำเนินการเครือข่าย 5G แทนรัฐบาล / ผลการสำรวจความเห็นธุรกิจอเมริกันในประเทศจีน

Your browser doesn’t support HTML5

รวมข่าวธุรกิจ 1/30/2018

Amazon, Warren Buffet และธนาคาร JPMorgan Chase ประกาศร่วมตั้งบริษัทให้บริการด้านสุขภาพ

วันนี้ราคาหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสุขภาพในสหรัฐฯ ตกลง หลังจากที่บริษัท Amazon ของนาย Jeff Bezos ร่วมกับบริษัทลงทุน Berkshire Hathaway ของนาย Warren Buffet และธนาคาร JPMorgan Chase ประกาศความร่วมมือตั้งบริษัทที่จะให้บริการด้านสุขภาพที่ไม่มุ่งแสวงผลกำไรเป็นหลัก เพื่อให้คนทำงานในสหรัฐฯ สามารถซื้อประกันสุขภาพได้ในราคาที่สมเหตุผล

ถึงแม้ผู้บริหารของทั้งสามบริษัทจะยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทที่จะตั้งใหม่นี้ก็ตาม แต่นาย Warren Buffet ได้เคยกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลสุขภาพซึ่งเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ เปรียบเสมือนพยาธิที่หิวโหยซึ่งดูดเลือดจากระบบเศรษฐกิจอเมริกัน

และขณะนี้มีผู้อยู่ในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ราว 151 ล้านคน ที่ต้องพึ่งพาหรือใช้ประกันสุขภาพจากภาคเอกชน โดยเบี้ยประกันสุขภาพในแต่ละปีสูงขึ้นในระดับที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปีด้วย

ประธานคณะกรรมการ FCC สนับสนุนให้ภาคธุรกิจลงทุนและดำเนินการเครือข่าย 5G แทนรัฐบาล

เมื่อวันจันทร์ ทำเนียบขาวปฏิเสธเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายโทรคมนาคมไร้สายระบบ 5G เพื่อป้องกันการสอดแนมและการจารกรรมข้อมูลจากประเทศคู่แข่ง อย่างเช่น จีน ถึงแม้โฆษกทำเนียบขาวจะแถลงว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่ามีความจำเป็นที่ต้องสร้างเครือข่ายโทรคมนาคมซึ่งมีความมั่นคงปลอดภัยขึ้นก็ตาม

ก่อนหน้านี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ มีความเห็นว่า รัฐบาลกลางควรเป็นผู้สร้างและดำเนินการเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ที่จะสร้างขึ้นใหม่

แต่แนวคิดเรื่องนี้ถูกคัดค้านโดยภาคธุรกิจ รวมทั้งจากนาย Ajit Pai ประธานคณะกรรมการ FCC หรือ กสทช.ของสหรัฐฯ ซึ่งเห็นว่าภาคธุรกิจควรเป็นผู้ลงทุนและดำเนินการเครือข่าย 5G ไม่ใช่รัฐบาล

ผลการสำรวจความเห็นธุรกิจอเมริกันในประเทศจีน

หอการค้าอเมริกันในประเทศจีน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกประจำปีที่แสดงว่า แม้ผู้บริหารธุรกิจอเมริกันจะเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจีนจะเปิดตลาดในประเทศรับการลงทุนภายใน 3 ปีก็ตาม แต่ราว 75% ยังรู้สึกว่ารัฐบาลจีนตั้งระเบียบกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจส่งเสริมการแข่งขันของธุรกิจในประเทศมากกว่า และยังไม่ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเท่าที่ควร

ผู้บริหารธุรกิจอเมริกันในประเทศจีนยังเชื่อด้วยว่า จีนจะตอบโต้หากประธานาธิบดีทรัมป์ใช้มาตรการลงโทษธุรกิจจีนต่อไป

มาตรการตอบโต้ด้านการค้าของจีนอาจมุ่งเป้าที่ธุรกิจการบินพาณิชย์ ภาคการเกษตร รวมทั้งต่ออุตสาหกรรม และต่อรัฐต่างๆ ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย