ธุรกิจ: คาด 'ทรัมป์' เตรียมประกาศชื่อประธาน Fed คนใหม่สัปดาห์นี้

Federal Reserve Chair Janet Yellen

ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดห้องค้าหลักทรัพย์อย่างถาวรสิ้นเดือนนี้

Your browser doesn’t support HTML5

รวมข่าวธุรกิจ 10/23/2017

คาด 'ทรัมป์' เตรียมประกาศชื่อประธาน Fed คนใหม่

คาดว่าสัปดาห์นี้ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve (Fed) คนใหม่ แทนนางเจนเน็ท เยลเล่น ที่จะหมดวาระในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

โดยตัวเต็ง 2 คนก็คือ เจอโรม พาวเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการของ Fed และ จอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

นอกจากตำแหน่งประธานคณะผู้ว่าการ Fed แล้ว อีกตำแหน่งที่ต้องหาคนมาแทนเช่นกัน คือ รองประธานคณะผู้ว่าการของ Fed ที่จะเกษียณในเดือนนี้

FILE - Federal Reserve Gov. Jerome Powell talks with others before a Board of Governors meeting in Washington, Nov. 30, 2015.

ในส่วนของผู้ที่คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อทั้งสองคน เจอโรม พาวเวลล์ นั้นดูมีภาษีดีกว่าเพราะเป็นผู้ที่ทำงานสนับสนุนนโยบายของนางเยลเล่นมานานหลายปี ขณะที่ จอห์น เทย์เลอร์ ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการการเงิน แต่ก็ถูกวิจารณ์เช่นกันว่ามีนโยบายที่ไม่ค่อยยืดหยุ่นนัก

แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีแรงสนับสนุนให้นางเยลเล่นนั่งในตำแหน่งนี้ไปอีกหนึ่งสมัยด้วย

FILE - John Taylor, of Stanford University, arrives for a dinner at the Jackson Hole Economic Symposium near Jackson Hole, Wyo., Aug. 30, 2012.

ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งจัดทำโดยรอยเตอร์ส ชี้ว่าระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมปีนี้ และอีกสองครั้งในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเกินไปทำให้คาดหมายว่า Fed อาจปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าด้วย

ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดห้องค้าหลักทรัพย์อย่างถาวรสิ้นเดือนนี้

ตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกงหรือ Hong Kong Exchange & Clearing เตรียมปิดห้องค้าหลักทรัพย์อย่างถาวรสิ้นเดือนนี้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดยุคของการเคาะกระดานซื้อขายหุ้นของฮ่องกง ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชีย

นั่นหมายความว่าตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป การซื้อขายหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งที่ตลาดหลักทรัพย์กรุงโตเกียว สิงคโปร์ และกรุงลอนดอน ที่ต่างปิดห้องค้าหลักทรัพย์แล้วเปลี่ยนไปเป็นระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหลายปีแล้ว