ธุรกิจ: วุฒิสภาสหรัฐฯ พิจารณาข้อตกลงรวมกิจการ "ไบเออร์-มอนซานโต้"

Bayer-Monsanto

รัฐบาลอเมริกันเตรียมเปิดเผยกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ / บริษัทอเมริกัน 51 แห่งบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัย

Your browser doesn’t support HTML5

ฺีBusiness News

วุฒิสภาสหรัฐฯ พิจารณาข้อตกลงรวมกิจการ "ไบเออร์-มอนซานโต้"

วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาข้อตกลงที่บริษัทยา Bayer ของเยอรมนี จะซื้อกิจการของบริษัทการเกษตร Monsanto ของสหรัฐฯ ด้วยวงเงิน 66,000 ล้านดอลลาร์

การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นการรวมสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเคมีภัณฑ์และการเกษตรของโลกไว้ด้วยกัน ซึ่ง สว.อเมริกันบางคนกังวลว่าจะเป็นผลเสียต่อเกษตรกรอเมริกันเองเพราะราคาเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรอาจสูงขึ้น

ผู้บริหารของ Bayer และ Monsanto ระบุว่าการรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยใช้สารเคมีทางการเกษตรน้อยลง

ปัจจุบันทั้ง Bayer และ Monsanto ต่างมีผลิตภัณฑ์ในตลาดซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก ตั้งแต่ยาแอสไพริน ยาแก้แพ้คลาริทิน ยาฆ่าหญ้า RoundUp รวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ หลายชนิด

รัฐบาลอเมริกันเตรียมเปิดเผยกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ

รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยแนวทางใหม่ที่จะนำมาใช้ในการควบคุมเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์แบบควบคุมตัวเอง โดยจะนำมาใช้แทนกรอบควบคุมแบบเดิมซึ่งค่อนข้างสับสนและแตกต่างกันในแต่ละรัฐ

เวลานี้บริษัทใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ เช่น Apple Google Ford และ Uber กำลังแข่งขันกันเพื่อพัฒนารถยนต์แบบควบคุมตัวเองอัตโนมัติ ที่คาดว่าจะออกวิ่งสู่ถนนจริงในอีกไม่กี่ปีจากนี้ ทำให้เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องมีกฎเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน

คาดว่าแนวทางใหม่ที่เรียกว่า Federal Automated Vehicles Policy ซึ่งกำลังจะเปิดเผยนั้น จะช่วยกำหนดว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์แบบนี้จะต้องทดสอบยานพาหนะของตนอย่างไร ตลอดจนการจัดหาข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องให้กับผู้ขับขี่ รวมทั้งการรับรองว่าผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมรถได้ทันทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

บริษัทอเมริกัน 51 แห่งบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัย

ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทอเมริกัน 51 บริษัทรับปากว่าจะบริจาคเงินก้อนใหม่เป็นมูลค่ารวม 650 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่หลบหนีจากสงครามและความเดือดร้อนต่างๆ ทั่วโลก

ส่วนหนึ่งของบริษัทที่ให้เงินบริจาคดังกล่าว คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยี เช่น Google Facebook และ Twitter รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ เช่น Citigroup MasterCard และ Goldman Sachs

รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าเงินก้อนนี้จะถูกนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกว่า 6 ล้านคนในมากกว่า 20 ประเทศ ตลอดจนสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้ลี้ภัย 80,000 คน และสร้างงานให้ผู้ลี้ภัย 220,000 คน