ธุรกิจ: บริษัทขนมหวานรายใหญ่ของอเมริกาจับมือกันลดปริมาณน้ำตาลในผลิตภัณฑ์

mars

ยอดบ้านที่ถูกธนาคารยึดในสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 12 ปี / "ฟาร์มหอยเป่าฮื้อ" ขยายตัวรวดเร็ว ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ

Your browser doesn’t support HTML5

Business News

ยอดบ้านที่ถูกธนาคารยึดในสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 12 ปี

รายงานของบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนบ้านของครอบครัวชาวอเมริกันที่ถูกธนาคารยึดเมื่อเดือนที่แล้ว ลดลงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี และลดจากเดือนเมษายนของปีก่อน 23%

รายงานชี้ว่า เมื่อเดือนที่แล้วมีบ้านราว 77,000 หลังในอเมริกาที่เจ้าของบ้านไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ โดยเมือง Atlantic City รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ คือเมืองที่มีปัญหาบ้านถูกธนาคารยึดหรือผิดนัดชำระค่าผ่อนบ้านมากที่สุด ขณะที่นครซีแอตเติ้ล รัฐวอชิงตัน คือเมืองที่มีจำนวนบ้านที่มีปัญหาดังกล่าวลดลงมากที่สุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

บริษัทขนมหวานรายใหญ่ของอเมริกาจับมือกันลดปริมาณน้ำตาลในผลิตภัณฑ์

บริษัทช็อคโกแลตและขนมหวานรายใหญ่ของสหรัฐฯ 5 บริษัท รวมถึง Mars , Nestle และ WM Wrigley ประกาศความร่วมมือเพื่อลดปริมาณแคลอรี่ในผลิตภัณฑ์ขนมหวานหลายชนิดที่ขายในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้

ทั้ง 5 บริษัท บรรลุข้อตกลงจำกัดปริมาณแคลอรี่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ให้เกิน 200 แคลอรี่ ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายถึงการจำกัดปริมาณน้ำตาลที่เติมลงไปในขนมหวานเหล่านั้น โดยขณะนี้ บางบริษัทได้เริ่มนำขนมหวานแบบแคลอรี่ต่ำออกวางขายในตลาดบ้างแล้ว

ก่อนหน้านี้องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ กำหนดให้บริษัทผู้ผลิตอาหารต่างๆ ต้องระบุปริมาณน้ำตาลที่ใช้ไว้ในฉลาก โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

ปัจจุบันสหรัฐฯ คือผู้บริโภคน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ปัญหาโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนอเมริกัน

"ฟาร์มหอยเป่าฮื้อ" ขยายตัวรวดเร็วทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ความต้องการบริโภคหอยเป่าฮื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว และทำให้เกิดอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงหอยเป่าฮื้อกระจายไปในหลายส่วนของโลก โดยมีแอฟริกาใต้เป็นผู้นำในด้านนี้

ฟาร์มเลี้ยงหอยเป่าฮื้อในแอฟริกาใต้นั้นทำกันบนฝั่ง โดยใช้วิธีสูบน้ำทะเลเข้าไปในฟาร์ม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าหอยเป่าฮื้อจากแอฟริกาใต้นั้นรสชาติดีกว่าหอยจากส่วนอื่นๆ ของโลก และนั่นทำให้ราคาหอยเป่าฮื้อแอฟริกาใต้แพงกว่าหอยจากเอเชียถึงสองเท่า

คาดว่าอุตสาหกรรมหอยเป่าฮื้อทั่วโลกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 140 ล้านดอลลาร์เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว อยู่ที่ระดับประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน