ธุรกิจ: "โฟล์คสวาเกน" รับซื้อคืนรถนับแสนคัน ขานรับนโยบาย “แบนรถดีเซล”

รวมข่าวธุรกิจ 3/29/2018

โฟล์คสวาเกน รับซื้อคืนรถนับแสนคัน ขานรับนโยบาย “แบนรถดีเซล”

ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์เยอรมนี “โฟล์คสวาเกน” ประกาศแผนรับซื้อคืนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซล ตามนโยบายของรัฐบาลเยอรมนี ที่ห้ามใช้รถยนต์เครื่องดีเซลในหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อลดมลพิษทางอากาศ

รถยนต์ที่เข้าข่ายรับซื้อคืนของ โฟล์คสวาเกน จะต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ที่ซื้อหลังจากเดือนเมษายนปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ซึ่งลูกค้าจะสามารถนำรถไปเคลมเงินคืนและซื้อรถคันใหม่ที่ดีลเลอร์เดิมได้

ทั้งนี้ โฟล์คสวาเกน เริ่มนโยบายรับซื้อคืนรถยนต์ดีเซลราว 1 แสน 2 หมื่นคันในเยอรมนี มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถรายอื่นๆในเยอรมนี ซึ่งหลังจากนี้โฟล์คสวาเกน มีแผนที่จะซื้อคืนรถดีเซลในประเทศอื่นรวมถึงอเมริกาด้วยเช่นกัน

ธนาคารบาร์เคลย์ ยอมจ่าย 2 พันล้านดอลลาร์ เคลียร์คดีหนี้ซับไพรม์

กลุ่มธนาคารบาร์เคลย์ของอังกฤษ บรรลุข้อตกลงในการจ่ายเงินค่าปรับ 2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 6 หมื่น 3 พันล้านบาทให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยื่นฟ้องกลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ในข้อหาฉ้อโกงผ่านการเสนอขายหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ซึ่งเป็นต้นตอของวิกฤตการเงินสหรัฐฯ หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เมื่อสิบปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารบาร์เคลย์ไม่ได้ตกลงยอมรับผิดเรื่องเงินชดเชยกับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากการจำหน่ายสินเชื่อหลักทรัพย์ MBS มูลค่ากว่า 31,000 ล้านดอลลาร์นี้ด้วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องร้องคดีดังกล่าวที่ศาลเมืองบรู๊คลิน ในฐานะเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 โดยธนาคารดอยช์แบงก์ ที่ตกลงจะจ่ายเงินค่าปรับ 3,100 ล้านดอลลาร์ และจ่ายเงินชดเชยมูลค่า 4,100 ล้านดอลลาร์ให้กับลูกค้า ตามกฎหมายการยุติคดีความของสหรัฐ

“แอปเปิล” อัพเดทระบบปฏิบัติการเพิ่มความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้

บริษัท แอปเปิล (Apple) พัฒนาระบบปฏิบัติการ iOS MacOS และ tvOS ที่เพิ่มความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของแอพพลิเคชั่นต่างๆ บนอุปกรณ์ทุกชนิดของ Apple

ระบบปฏิบัติการล่าสุดนี้ จะปรากฏหน้าจอ Data&Privacy เมื่อพบว่าแอพพลิเคชั่นใดต้องการจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ และช่วยให้ผู้ใช้เห็นว่าแอพพลิเคชั่นบน App Store ที่ดาวน์โหลดมานั้น นำข้อมูลส่วนตัวไปใช้มากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลของผู้ใช้รั่วไหล เหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้นกับ Facebook และสอดคล้องกับนโยบายของสหภาพยุโรป ที่เพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้คนบนโลกออนไลน์