ธุรกิจ: “ทรัมป์” ทุ่มสุดหน้าตักฟื้นธุรกิจเหล็กกล้าให้ชาวอเมริกัน

President Donald Trump speaks during a meeting with the members of the National Governors Association in the State Dining Room of the White House, Feb. 26, 2018.

Your browser doesn’t support HTML5

ข่าวธุรกิจ 26 ก.พ. 2561

“ทรัมป์” ทุ่มสุดหน้าตักฟื้นธุรกิจเหล็กกล้าให้ชาวอเมริกัน

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล็กกล้าในอเมริกากลับฟื้นคืนมาให้ได้ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมดังกล่าวให้กับชาวอเมริกัน แม้ว่าจะต้องใช้มาตรการขึ้นกำแพงภาษีก็ตาม

ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เสนอให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ที่นำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังเหลือเวลาสำหรับการพิจารณามาตรการอื่นๆ จนถึงเดือนเมษายนนี้ แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Steel Corp และ AK Steel Holding ซึ่งเป็นธุรกิจเหล็กของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทันทีหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ พูดถึงการตั้งกำแพงภาษีเหล็กกล้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯร่วงหนักในรอบ 5 เดือน

ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมปีนี้ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยมียอดขายบ้านใหม่ 593,000 หลัง ลดลงร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯที่ส่งสัญญาณชะลอตัว สวนทางกับจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้น 301,000 หลัง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ยังไม่ถึงระดับอุปทานส่วนเกิน Oversupply

ทาง Daniel Silver นักเศรษฐศาสตร์จาก JPMorgan ในนิวยอร์ก มองว่า ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านในระดับกลางจนถึงล่างซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก มีผลต่อการตัดสินใจซื้อและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ จึงคาดว่าทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ จะยังตึงตัวต่อไปตลอดทั้งไตรมาสแรกของปีนี้

“วอร์เรน บัฟเฟต” เตรียมเปิดตัวซีอีโอบริษัทประกันร่วมทุนยักษ์ในปีหน้า

นายวอร์เรน บัฟเฟต แห่ง Berkshire Hathaway ประกาศแผนเปิดตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านสุขภาพที่เป็นการร่วมทุนของ 3 ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon Berkshire Hathaway ของนายวอร์เรน บัฟเฟต และธนาคาร JPMorgan ภายในปีหน้า

นายบัฟเฟต ให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC ยืนยันว่าจะมีการประกาศชื่อซีอีโอของบริษัท พร้อมแผนเชิงรุกในการลดต้นทุนด้านสุขภาพของชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 3 แสนบาทต่อคน คิดเป็นร้อยละ 18 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของประเทศทีเดียว และสิ่งนี้ได้กระทบกับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจอเมริกัน เมื่อเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ และเขามั่นใจว่าจะสามารถลดต้นทุนด้านสุขภาพราวร้อยละ 3-4 ได้ไม่ยาก

นี่ถือเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการสุขภาพของสหรัฐฯ หลังจาก 3 บริษัทประกาศร่วมทุน สร้างบริษัทบริการด้านสุขภาพที่ไม่แสวงผลกำไรสำหรับชาวอเมริกัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นของธุรกิจด้านสุขภาพต่างร่วงลงเป็นทิวแถว หวั่นกระทบกับผลกำไรจากอุตสาหกรรม